Kepler-10b เป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ถูกค้นพบโดยยานสำรวจ Kepler ของ NASA ในปี 2011 ซึ่งเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงแรกที่ถูกยืนยันว่าเป็นดาวเคราะห์หินคล้ายกับโลก อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมบน Kepler-10b แตกต่างจากโลกอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นดาวเคราะห์ลาวาที่มีความร้อนสูงและมีฝนที่ตกลงมาเป็นโลหะ
ลักษณะทางกายภาพของ Kepler-10b
Kepler-10b ตั้งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 560 ปีแสง ในกลุ่มดาวมังกร (Draco). มันเป็นดาวเคราะห์ประเภท “Super-Earth” ซึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโลกแต่ยังคงเป็นดาวเคราะห์หิน มันมีรัศมีประมาณ 1.4 เท่าของโลก และมีมวลประมาณ 3.3 เท่าของโลก แต่สิ่งที่ทำให้ Kepler-10b โดดเด่นคือการที่มันโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ของมันในระยะที่ใกล้มาก โดยมีระยะเวลาการโคจรเพียง 0.84 วันเท่านั้น ทำให้มันเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนจัด
สภาพแวดล้อมที่ร้อนแรงและลาวา
เนื่องจาก Kepler-10b โคจรใกล้ดาวฤกษ์แม่มาก พื้นผิวของมันมีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 2,500 องศาเซลเซียส ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้พื้นผิวของดาวเคราะห์นี้กลายเป็นลาวาเหลว สภาพแวดล้อมที่ร้อนขนาดนี้ทำให้ Kepler-10b ได้รับสมญานามว่า “ดาวเคราะห์ลาวา” (Lava Planet) การที่มันอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์แม่ทำให้มันไม่มีบรรยากาศหนาแน่นพอที่จะรักษาความเย็นไว้ได้ พื้นผิวที่ร้อนจัดนี้จึงกลายเป็นมหาสมุทรลาวา และเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงมาก วัสดุต่างๆ บนพื้นผิวสามารถระเหยกลายเป็นไอได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก่อเกิด “ฝนโลหะ”
Kepler-10b เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ไม่กี่ดวงที่คาดว่ามี “ฝนโลหะ” (Metal Rain) เกิดขึ้นบนพื้นผิว เมื่อโลหะหนักเช่นเหล็กและซิลิคอนระเหยกลายเป็นไอจากความร้อนจัด มันสามารถรวมตัวเป็นเมฆที่ประกอบด้วยโลหะ และเมื่อไอโลหะเหล่านี้เย็นตัวลงจากการเคลื่อนที่ผ่านบรรยากาศที่บางและร้อนของดาวเคราะห์ โลหะเหล่านั้นจะตกกลับลงมาบนพื้นผิวในรูปแบบของฝนโลหะ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของดาวเคราะห์ที่มีสภาพแวดล้อมเช่นนี้
ผลกระทบทางวิทยาศาสตร์
การค้นพบ Kepler-10b และการศึกษาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมสุดขั้วของมันช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ รวมถึงการศึกษาลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันในดาวเคราะห์ที่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกับโลก นักดาราศาสตร์ยังคงศึกษาดาวเคราะห์เช่น Kepler-10b เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่น ๆ และเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับความหลากหลายของสภาพแวดล้อมที่อาจมีอยู่ในจักรวาล
Kepler-10b จึงเป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของความหลากหลายและความประหลาดใจที่ยังคงรอการค้นพบในเอกภพ ซึ่งอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลได้มากยิ่งขึ้น
สนับสนุนเรื่องราวโดย หวยดี.com