คุณเคยเห็นภาพทับซ้อนหรือไม่? อาจจะฟังดูงงๆ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราลองมาขยายความให้ฟังกันดีกว่า คุณเคยเห็นเหตุการณ์ซ้ำๆกันเกิดขึ้นกับตัวคุณเองหรือไม่ มันอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่คุณได้ทำด้วยตัวของคุณเองเลย หรือ จะเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่เปรียบเสมือนว่าคุณได้เห็นมันมาก่อนหน้านี้แล้วในฐานะที่คุณเป็นผู้รับชม คุณเคยแปลกใจกับตัวเองหรือไม่ว่ามันคืออะไร สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ที่มันวิ่งเข้าในโสตประสาทของคุณให้รับรู้นี้มันคืออะไร เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันกลายเป็น เรื่องจริง ที่เป็นภาพเสมือนว่าคุณนั้นได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อเหตุการณ์มันถูกฉายซ้ำตอนคุณได้ทำลงไปในขณะนั้น
แล้วภาพพวกนั้นมันมาจากไหน ความฝัน หรือเปล่านะ ไม่นะ ความฝันส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นเหตุการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า เพราะตามทฤษฎีแล้วนั้นอธิบายได้ว่า ภาพในความฝันในขณะที่เรากำลังนอนนั้นเป็นเพียงความคิดที่อยู่ในจิตใต้สำนึกอันก้นบึ้งที่ฝั่งมันเอาไว้ในใจ หากให้พยายามนึกจิตใจสำนึกเหล่านี้จะมักจะนึกไม่ออก มันเลยผุดออกมาในรูปแบบของภาพในความฝัน แต่ก็แปลกเช่นกันที่บางทีเราก็สามารถจดจำความฝันของตัวเองได้ จึงเป็นสับสนที่ว่าภาพที่ทับซ้อนขึ้นมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความจริงแล้วนั้นมันมาจากความฝันใช่หรือไม่
หลายคนก็ได้แย้งว่ามันไม่ใช่ความ แต่มันคือ เดจาวู ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เราทำไปแล้วและเกิดขึ้นจริง อ่านประโยคนี้อาจจะต้องพิจารณากันอีกรอบนะว่า เราจะทำเหตุการณ์นั้นมาก่อนหน้าที่เราจะทำในเหตุการณ์จริงที่ผ่านมาอย่างไรกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำสิ่งเหล่านั้นมาก่อน ทฤษฎีเดจาวู อธิบายถึงมิติที่3 และมิติอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งนั้นหมายความเรามีโลกคู่ขนาด โลกคู่ขนานก็คือโลกอีกใบที่เราอีกคนอาศัยอยู่ในนั้น โลกคู่ขนานจะเป็นโลกทางเลือกที่ตรงข้ามกับเราโดยสิ้นเชิง สมมติว่า คุณกำลังจะเลือกซื้อตุ๊กตาระหว่างสีฟ้าและสีชมพู ตัวคุณโลกนี้ได้เลือกสีฟ้า แต่คุณที่อยู่ในโลกคู่ขนานจะเลือกสีชมพู แต่ถ้าหากคุณมีตัวเลือกมากกว่า 2 ตัวเลือก นั้นจะเท่ากับว่าคุณจะสามารถสร้างโลกคู่ขนานขึ้นมาได้มากกว่าหนึ่งโลก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์เดจาวูล่ะ เพราะโลกคู่ขนานถึงแม้ว่าตัวเลือกจะแตกต่างกัน แต่สถานการณ์นั้นจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งแปลว่าในโลกขนานของคุณสักโลกนั้น
คุณในโลกขนานอาจจะได้เหตุการณ์นั้นไปก่อนหน้าคุณไปแล้ว จึงทำให้คุณรู้สึกว่าเมื่อทำเหตุการณ์นั้นซ้ำจะมีภาพทับซ้อนเข้ามา นั้นแหละเป็นสิ่งที่ตัวคุณในโลกคู่ขนานได้ทำไปก่อนแล้ว เพราะเป็นเหตุการณ์เดียวกันในบางครั้งจึงทำให้สามารถจูนเหตุการณ์กันได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วเราก็ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้อย่าง100% แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียหน่อย