การพุ่งชนของอุกกาบาต สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของดาวพุธที่ถูกอุกกาบาตพุ่งชน
โดยสังเกตให้เห็นได้ว่าถ้าหากมีการลงไปสำรวจพื้นผิวของดาวพุธนั้นจะเห็นได้ว่าบนพื้นผิวของดาวพุธนั้นจะมีหลุมมีบ่อทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมากและถ้าหากว่ามีการตรวจเกี่ยวกับอุกกาบาตตอนนี้ก็จะเห็นได้ว่าแต่ละกลุ่มนั้นมีระยะเวลาที่แตกต่างกันบางกลุ่มนั้นอายุมากกว่าหลายร้อยล้านปีเราก็มี
อย่างที่เรารู้กันดีว่าดาวพุธนั้นมีก๊าซและฝุ่นละอองต่างต่างเยอะแยะมากมายนอกจากนี้สิ่งที่โดดเด่นมากๆที่เราจะสามารถมองเห็นได้จากดาวพุธนั่นก็คือบนดาวพุธนั้นจะมีเนินคล้ายกับหน้าผาซึ่งเป็นลักษณะของหน้าผาขนาดยาวซึ่งมันมีการก่อตัวขึ้นมานานหลายพันล้านปีมาแล้วโดยถ้าผ่านนี้มีความทอดยาวและคดเคี้ยวและสูงชันเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการเกิดเป็นร่องลึกซึ่งจากการวิเคราะห์นั้นก็คือการยืดและหดตัวของหินบนดาวพุธ
เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวจัดและร้อนจัดนั่นเองอย่างไรก็ตามประเด็นที่เราจะพูดถึงกันในครั้งนี้ก็คือลักษณะของพื้นผิวของดาวพุธที่เรามีการระบุว่ามีลักษณะของผิวขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเพราะถูกอุกกาบาตพุ่งชนแล้วจะมาพูดถึงลักษณะของอุกกาบาตที่มีการพุ่งชนผิวของดาวพุธ ทางเข้า gclub มือถือ โดยเราจะเห็นเป็นลักษณะเป็นแอ่ง ซึ่งแอ่งดังกล่าวนั้นนักวิทยาศาสตร์เรียกว่าแอ่งแคลอริส
สำหรับแอ่งแคลอริส นั้นหากมองดูจะเห็นได้ว่าเป็นสีดำที่ไม่ใช่ดำสนิท เป็นสีกระดำกระด่าง แอ่งแคลอริส เป็นหลุมที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดบนดาวพุธเลยก็ว่า ซึ่งหลุมนี้ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ซึ่งมีการประมาณคาดการณ์กันว่าหลุมดังกล่าวน่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1550 กิโลเมตรเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการพุ่งชนของอุกกาบาตในแต่ละครั้งจะมีการรุนแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งครั้งที่เป็นแอ่งแคลอริส นั้นมีการพุ่งชนที่รุนแรงมาก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าความรุนแรงนั้นถึงขนาดที่ว่าเศษซากของอุกกาบาตกระเด็นไปไกลถึงหนึ่งพันกิโลเมตร ซึ่งมีวัดจากปากหลุมยังไงก็ตามนักวิทยาศาสตร์มีแนวความคิดว่าคลื่นกระแทก
จากการชนของอุกกาบาตที่ชนไปยังดาวพุธนั้นมีทิศมีกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทางแต่หลังจากที่กระจัดกระจายกันแล้วก็จะมาบรรจบกันที่บริเวณหน้าผาบนดาวพุธทำให้ตรงบริเวณจุดนี้จะเกิดเป็นเนินเขาขึ้นซึ่งมีรูปร่างลักษณะที่ค่อนข้างแปลกประหลาดมากเลยทีเดียว