9
ก.ค.
2021
กบทะเลทราย สิ่งที่เราไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมันมีอยู่จริงๆ บนโลกของเรา แน่นอนว่ากว่าที่เรานั้นจะได้รับรู้ เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรานั้นมันใช้เวลายาวนานอยู่ไม่น้อยเลย เพราะกว่าที่นักสำรวจ หรือว่านักวิทยาศาสตร์จะหมั้นใจในแต่ละเรื่องก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นมาราวตัวของเรานี้ มีทั้งเรื่องที่ดี แล้วก็เรื่องที่ไม่ดี มีทั้งสิ่งที่เราอยากจะให้มันเกิดขึ้นและไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เราไม่มีทางบังคับหรือทำให้มันเกิดได้ถ้าหากว่ามันยังไม่ถึงเวลาของมัน
หลายสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา มีหลายอย่างที่เราอยากเข้าไปใกล้อยากสัมผัส แต่ทว่ามันไม่สามารถที่จะทำได้ เนื่องจากว่ามันมีข้อห้าม หรือข้อบังคับบางอย่างอยู่ ซึ่งในวันนี้เรื่องที่เรากำลังจะไปพูดถึงนั้นเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ว่าได้ อันตรายต่างๆ นั้นเกิดขึ้นอยู่ตอบตัวของเราอย่างเช่นสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงนั้นก็คือกบทะเลทรายนั้นเอง
หลายคนที่ไม่เคยได้ยินเสียงของ กบทะเลทราย อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่และในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ได้ยินนี่ก็คือเสียงกบทะเลทรายตอนพวกมันกำลังโกรธอยู่นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อสายพันธุ์เจ้ากบอ้วนกลมนี้ซึ่งมันเป็นชื่อที่อ่านอยากมากๆเลยก็ว่าได้ดังนั้นเราจึงจะไม่พูดถึง ซึ่งมีขนาดกะตัวละ 24 cm อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลระหว่างประเทศนามิเบียและแอฟริกาใต้อยู่ เนื่องจากพวกมันไม่ได้อาศัยอยู่บริเวณอื่นๆบนโลกจึงไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นักสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับกบชนิดนี้ก็คือพวกมันจะฝังตัวอยู่ในพื้นทรายลึกถึง 10 ถึง 15 cm ตลอดเวลา
ยกเว้นตอนหาอาหารเท่านั้นอาหารโปรดของพวกมันก็คือสัตว์จำพวกแมลงตัวเล็กแล้วพวกมันจะส่งเสียงขู่คำรามไม่รู้สึกว่าตัวเพื่อป้องกันตัวจากนักล่าขนาดใหญ่กว่าเนื่องจากพวกมันมีขนาดลำตัวเล็กทำให้กับสายพันธุ์นี้มีจำนวนลดลงทุกปีและจัดเป็นสัตว์ประเภทที่ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอันดับต้นๆเลย ธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสิ่งที่เราได้เห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตต่างๆ สามารถอาศัยอยู่ได้ด้วยธรรมชาติที่สมบรูณ์ แต่ทว่าธรรมชาตินั้นจะไม่มีทางมีอยู่ตลอดไป
ถ้าหากมนุษย์อย่างเราไม่รู้จักที่จะช่วยกันรักษาให้มันดีขึ้น เพราะอย่างในปัจจุบันนี้ธรรมชาติได้เสียหาย และถูกทำลายไปมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วเราจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันหันมาให้ความสนใจธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
สนับสนุนโดย. ufabetฝ่ายบริการ
5
ก.ค.
2021
สถานที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ที่เราต้องศึกษากันอีกถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์จะมีการส่งยานอวกาศขึ้นไปสำรวจดาวเคราะห์ต่างๆและสำรวจบริเวณพื้นที่ที่ได้มีการค้นพบใหม่ๆบนอวกาศแต่ทว่ามัน โซนกักกันเชอร์โนบิล ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้และเรายังต้องใช้เวลาในการศึกษาอีกต่อไปเช่นเดียวกันกับบนโลกของเราถึงแม้ว่าเรื่องราวต่างๆบนโลกของเรา
จะได้รับการแก้ไขแล้วหรือว่าได้ศึกษาฉันรู้คำตอบแล้วแต่เชื่อหรือไม่แน่อนาคต มันต้องมีบางสิ่งอยากแน่นอนที่ต้องเปลี่ยนแปลง
สารเคมีต่างๆมีอยู่รอบตัวของเราและมันก็มีประโยชน์มากๆแต่มันก็ไม่ได้มีแค่เพลงเดียวจนเดียวเพราะมันก็ยังมีโทษอีกด้วยเช่นเดียวกันเช่นเดียวกันกับกัมมันตรังสีแน่นอนว่าสารกัมมันตรังสีอย่างที่เราได้ศึกษามาบ้างแล้วอาจจะรู้ดีว่าสารกัมมันตรังสีนั้นจะไม่ควรที่จะเข้าไปใกล้ๆมันเด็ดขาด โซนกักกันเชอร์โนบิล เพราะหากอะไรฉันมาคุณอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็เป็นได้ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ที่เต็มไปด้วยสารกัมมันตรังสีสถานที่แห่งนั้นก็คือโดนกักกันเชอร์โนบิลนั่นเองเหตุระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในชุมชนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายนปี 1986
รถไฟฟ้าที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำริเวอร์ไซด์ มือพิษทางตอนเหนือของยูเครนซึ่ง ณ ตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ส่วนสาเหตุของการระเบิดนั้นมาจากการที่ระบบหล่อเย็นของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้เกิดแรงดันไอน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลันจนทำให้แกปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 เกิดการระเบิดขึ้นทำให้ทีเท่าที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีปกคลุมไปทั่วตะวันตกของรัสเซียจนถึงยุโรปกันเลยทีเดียว
มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 6 แสนคนและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งจากการสัมผัสกัมมันตรังสีเราราวๆ 400 คนด้วยชื่อได้ว่าเป็นอุบัติเหตุเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้เพราะรัศมีการปนเปื้อนของสารพิษจากเชอร์โนบิลนั้น กว้างมากเมื่อเทียบกับสารพิษจากแหล่งอื่นๆ
อย่างไรก็ตามถุงแม้ว่าโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ใช้ระบบแบบนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้มาก แต่ทว่ามันก็ยังมีข้อเสียอยู่ดี ตัวอย่างก็อย่างที่เรานั้นได้กล่าวไปข้างต้น
สดท้ายนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสารเคมี หรือกัมมันตรังสีถ้าหากว่าเราไม่รู้จักมันอย่างดีพอเราไม่ควรที่จะเข้าไปใกล้มันเด็ดขาด เพราะอะไรทุกคนก็ต่างรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าจะลองเสี่ยงดูคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง แต่บอกได้คำเดียวว่ามันไม่คุ้มอย่างแน่นอนสำหรับการลอง อะไรแบบนี้
สนับสนุนโดย. ufabet ฝาก-ถอน ออโต้
23
มิ.ย.
2021
ภูเขาไฟสถานที่ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาบนโลกของเราแน่นอนว่า ภูเขาไฟที่อยู่บนโลกของเรามีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กก็ยังมีพวกเขาไฟที่ทำไปแล้วและภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุอยู่ตลอดเวลาต่อให้โลกของเราผ่านกาลเวลามันเนิ่นนานเพียงใดภูเขาไฟที่ยังคงไปพูดอยู่มันก็พร้อมที่จะระเบิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อและแน่นอนว่าถ้าหากมันมีขนาดใหญ่พอมันก็สามารถ ทำลายล้างพื้นที่บริเวณใกล้เคียงและภาคเอาชีวิตของมนุษย์หลายพันล้านคนไปได้และต่อให้พวกเขาไฟที่ดับไปแล้วจะมีมากมายแค่ไหนแต่ทว่ามันก็ยังไม่สู้ภูเขาไฟที่ยังคงมีการปะทุอยู่อยู่ดี
เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเรื่องที่เรากำลังจะพูดนั้นไม่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟหรือไม่ถ้าหากจะมีการเกิดภูเขาไฟมาขนาดนี้แล้วเรื่องที่ว่าจะพูดถึงเกี่ยวกับภูเขาไฟอย่างแน่นอนซึ่งภูเขาไฟถ้าหากว่ามันยังเป็นภูเขาไฟที่มีการปะทุอยู่เฉยๆเลยว่าคงไม่มีใครอยากจะย่างกรายเข้าไปใกล้มันอย่างแน่นอน
เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่ามันจะระเบิดประตูออกมาเมื่อไหร่ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภูเขาไฟที่มีชื่อว่า ภูเขาไฟเนียรากองโก ในอดีตภูเขาไฟต่างก็สร้างความสูญเสียให้กับโลกของเรามากมายตั้งแต่เหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุในเมืองปอมเปอี มากจนถึงเมื่อเร็วๆนี้แน่สาธารณรัฐของโลกก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันแต่ที่น่าสะพรึงกลัวกว่าเพราะเราว่าในภูเขาไฟรูปนี้ยังเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาเพราะความอันตรายของที่นี่จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่กล้าเข้าไปศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง
แค่จะทราบว่าพวกเขาไฟเมรากอนโกให้ประตูมาแล้ว 2 ครั้งครั้งแรกในปี 1977 และครั้งล่าสุดในปี 2002 เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เหมือนกูมาถูกทำลายไปในชั่วพริบตาฉันเหตุการณ์จะสงบลงและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเราว่าด้านในก็ยังลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
เข้าบริเวณจะเต็มไปด้วยมลพิษทำให้อัตราการเสียชีวิตของประชากรใกล้เคียงสูงขึ้นจนน่าตกใจ และนักวิทยาศาสตร์จะเฝ้าสังเกตภูเขาไฟรูปนี้อยู่ตลอดเวลาแต่ถ้าหากคุณยังรักชีวิตอยู่แล้วก็อยากเข้าไปใกล้เคียงเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน
สุดท้ายนี้เรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้อง กับภูเขาไฟยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะว่าภูเขาไฟที่อยู่บนโลกของเรา และยังมีพลังอยู่ มันพร้อมที่จะปะทุออกมาทำลายล้างโลกของเราอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าเพราะแม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงไม่อยากที่จะเข้าไปศึกษาถ้าหากว่ามันยังมีพลัง
ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโดย. Ufabet เข้าสู่ระบบ
15
มิ.ย.
2021
การถ่ายรูปนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเลย ก็ว่าได้เพราะด้วยอะไรหลายอย่างๆ และเจ้ากล้องถ่ายภาพนี้เองไม่จำเป็นที่นักวิทยาศาสตร์จะต้องจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ในสมุทรอีกต่อไป แต่ทว่าพวกเขาต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการวิเคราะห์รูปถ่าย ที่ถ่ายได้ และทำหารถึงรายละเอียดทั้งหมดออกมา แน่นอนว่าอย่างที่เรานั้นก็รู้กันดีว่าเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับอวกาศได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันนี้ก็ถือได้ว่ามันเจ๋งสุดๆ ไปเลยก็ว่าได้
หลายสิ่งหลายอย่างที่เราได้สามารถมองเห็นภาพได้ว่าอะไรคืออะไร หรือว่าดาวแต่ละดวงที่อยู่ในระบบสุริยะของเรานั้นเป็นอย่างไรก็เนื่องด้วยภาพถ่าย ถ้าหากไม่มีภาพ มีแต่ทฤษฎีมากมาย แน่นอนว่า เราก็คงไม่ได้อะไรจากการศึกษาสิ่งต่างๆ เหล่านี้เลย และเรื่องที่เรานั้นกำลังจะกล่าวต่อไปนี้ก็คือ ภาพถ่ายดาราศาสตร์ที่สร้างประวัติศาสตร์ เรื่อง การกำเนิดของระบบสุริยะ
ก่อนหน้านี้นั้นกระบวนการ การสร้างดาวเคราะห์เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ผ่านแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ และแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์เท่านั้น แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการกำเนิดระบบสุริยะ แต่ไม่สามารถเข้าใจได้ เนื่องจากไม่ได้เก่งเรื่องคำนวณเสียเท่าไหร่นัก
แต่ทว่าต่อมาในปี 2014 นักดาราศาสตร์สามารถที่จะถ่ายภาพกระบวนการสร้างดาวเคราะห์ที่ว่านี้ได้ ด้วยรายละเอียดที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยการถ่ายภาพดังกล่าวนั้นจะปรากฏเป็นจานดาวเคราะห์ก่อนเกิดที่อัดแน่นไปด้วยก๊าซมีแถบสีเข้ม ซึ่งมันจะหมุนวนไปรอบๆ ดาวฤกษ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นให้ โดยที่ดาวฤกษ์ชนิดนี้นั้นจะถูกเรียกว่าดาวฤกษ์ชนิด T-Tauri หรือว่า Herbig ในกรณีดังกล่าวนี้ดาวฤกษ์ T-Tauri ที่ถูกถ่ายได้ ถูกเรียกว่า HLTauri ซึ่งมันอยู่ห่างจากโลกของเรา 450 ปีแสง
ซึ่งความส่องสว่างและอุฯหภูมิที่มีประสิทธิภาพ ได้บ่งบอกว่างอายุของมันน้อยกว่าง 1 แสนปีอย่างแน่นอน และก็อาจจะบ่งบอกถึงดาวเคราะห์จำนวนหนึ่งที่อยู่ในหกนะบวนการก่อตัวซึ่งหลังจาสกที่วัสดุที่เหลือจากของดาวตกตะกอนคุณนั้นอาจจะที่จะมองเห็น เป็นรวงแหวนที่ไม่ต่อเนื่องกัน
และนั้นก็คือวงโคจรของดาวเคราะห์ที่กำลังจะมีขึ้นในไม่ช้า ซึ่งภาพถ่ายดังกล่าวนั้น มันบ่งบอกได้ว่าระบบที่กำลังก่อตัวขึ้นมีอายุที่ไม่เกิน 1 ล้านปี และจากภาพถ่ายดังกล่าวนี้ก็ได้ทำให้นักดาราศาสตร์เชื่อว่า ดาวเคราะห์ได้มีการก่อตัวขึ้นเกือบจะในทันทีหลังจากการกำเนิดของดาวฤกษ์ก่อน ที่มันจะกลายไปเป็นระบบดาว ที่เหมือนกันกับระบบสุริยะ ของเรา ก็ต้องศึกษาต่อไป
ได้รับการสนับสนุนเรื่องราวโดย ติดต่อ ufabet
9
มิ.ย.
2021
สถานที่ลึกลับต่างๆมากมายแน่นอนว่า มันไม่ได้โกรธคุณพ่อกับเป็นลูกของเราแต่ทว่ามันยังเกิดขึ้นกับจักรวาลที่กว้างใหญ่แห่งนี้โดยคุณรู้หรือไม่ว่าจักรวาลกว้างใหญ่แห่งนี้มีสถานที่ลึกลับต่างๆมากมายที่นักวิทยาศาสตร์การพยายามที่จะค้นหาและศึกษามันมีอย่างต่อเนื่องแต่ทว่าอุปกรณ์หรือว่าเทคโนโลยีต่างต่าง
เรามีอยู่มันยังไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้แต่ในอนาคตเชื่อได้เลยว่าเมื่อเราอยากจะศึกษาสิ่งที่อยู่ในจักรวาลไม่ว่าจะไกลแค่ไหนมันกลมมีนาเป็นเรื่องที่ยากอีกต่อไปแต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตและในปัจจุบันนี้เราควรจะทำมาที่สุดก็คือเทคโนโลยีต่างๆที่สามารถศึกษาถึงสิ่งต่างๆได้มากกว่าที่เป็นอยู่
หลายอย่างมากมายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นพวกของเราอย่างนี้สถานที่ลึกลับต่างๆมากมายก็ค้นมาให้เราได้ศึกษามาเป็นข้อถกเถียงกันในด้านของวิทยาศาสตร์ในวันนี้ค่ะที่ลึกลับทั้งนั้นจะไม่ได้จะพูดถึงสถานที่ที่อยู่ในจักรวาลหรอกนะสถานที่ที่เป็นของเรานี่เองซึ่งสถานที่แห่งนั้น ก็มีชื่อว่าเกาะลิทลาดิมัน น้องๆ มอ 6 หลายคนอาจจะรู้สึกอยากจะหนีไปที่ไหนสักแห่งนึง ล้อเล่นค่ะแต่ก็ดีนะ
ถ้ามีเพื่อนเล่นเป็น Wilson เหมือนกับในเรื่องคนหลุดโลกและหากลองมองมุ่งหน้าไปที่นั้นเลยจะดีมันบอกเลยว่าชีวิตจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแน่นอนเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตกน้ำทะเล แต่เมื่อไรก็กลางทะเลแห่งนี้ที่อยู่ระหว่างเกาะลอย อยู่ในหมู่เกาะแฟโรเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดมีพื้นที่เราราว 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นเนื่องจากทั้งกรอบเป็นพื้นที่ลาดเอียงคล้ายกับสไลเดอร์
จึงทำให้ที่นี่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลยแต่บางคนกะว่าจะสามารถให้ไปอยู่ที่นี่ได้รวมถึงนกบางชนิดเองก็มาเป็นแขกของคลินิกถึงจะไม่เหมาะในการอยู่อาศัยแต่ตัวก็มีความโดดเด่นสะดุดตาเพราะบางครั้งส่วนยอดจะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆคล้ายกับมันกำลังสวมหมวกอยู่นอกจากนี้ได้ดูหนังเรื่องปกคลุมไปด้วยหิมะเขาพ่นคล้ายกับภูเขาน้ำแข็งอีก
อย่างไรแล้วบนโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรานั้นยังไม่รู้เกี่ยวกับมัน และในวันนี้เราก็ได้นำเสนอให้ทุกคนได้รู้ไปแล้วหนึ่งสถานที่ แต่มันก็ยังไม่หมดหรอกนะเพราะมันยังมีอะไรอีกมากที่เราควรจะออกไปศึกษา คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่บนโลกของเรา หรือว่าสิ่งที่อยู่นอกโลกของเรา ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าหากเราได้ศึกษาเกี่ยวกับมันมันจะเป็นสิ่งที่ดีมากเลย
สนับสนุนโดย ติดต่อ ufabet
1
มิ.ย.
2021
อย่างที่เรานั้นก็ทราบกันเป็นอย่างดีว่าวิทยาศาสตร์นั้น ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งบนโลกของเรา และในจักรวาลที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับการสำรวจแต่ละอย่าง เพราะกว่าที่จะสามารถสรุปขอเท็จจริงได้ จะต้องมีการศึกษาให้แน่ชัดเสียก่อน โลกนั้นคือบ้านที่สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย รวมไปถึงมนุษย์อย่างเราด้วย
แน่นอนว่าในยุคแรกโลกของเรานั้น ไม่ได้มีหน้าตาเป็นอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน และสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา ในอดีตนั้นก็ไม่ได้มีหน้าตาเป็นแบบนี้อีกด้วย
สำหรับการศึกษาหรือว่าการสำรวจนั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบข้อมูล แน่นอนว่านักวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย เพราะพวกเขาก็ทำการพัฒนาเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ศึกษาสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะกล่าวถึง ก็คือการค้นพบซากฟอสซิลโบราณ เรื่อง Dineobellator Notohesperus เมื่อ 70 ล้านปี
ก่อนไดโนเสาร์ที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้มีนามว่า Dineobellator Notohesperus โดยที่มันเป็นไดโนเสาร์ Dineobellator ซึ่งมันก็คือไดโนเสาร์ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 68-70 ล้านปีก่อน และเจ้าไดโนเสาร์ที่ว่านี้ ก็ยังมีจุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่ขนาดความยาวตัวเพียง 2 เมตร และสูงแค่ราวๆ 1 เมตรเท่านั้น
สำหรับ จากข้อมูลที่มีการรับรองข้อมูล พบว่า ไดโนเสาร์กลุ่มนี้ มีหลักฐาน เจอตั้งแต่ปี 2008 แต่การค้นพบครั้งแรก เนื่องจาก ชิ้นส่วนของฟอสซิล มีการแยกจากกัน ถึง 20 ชิ้น จึงมีการสรุปถึงสายพันธุ์ที่ผิดพลาด และแจ้งว่า เป็น ไดโนเสาร์ Dineobellator แต่เมื่อมีหลักฐานการค้นพบ ระบุที่ลักษณะเด่นชัด จึงแจ้ง เป็นไดโนเสาร์ Dineobellator ซึ่งมีการอ้างอิงจากลลักษณะของฟอสซิลที่มีการค้นพบนักบรรพชีวิน ก็ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่ามันคือ Dineobellator Notohesperus นั้นจะทั้งเร็วและแข็งแรงกว่า ไดโนเสาร์สายพันธ์ใกล้เคียงอย่าง Velociraptor
ที่เราเห็นในหนังเสียอีกมีหลักฐาน การค้นพบ ลักษณะสำคัญถึงลักษณะการล่าเหยื่อ คล้ายกับเสือซีต้าร์ เป็นอย่างมาก เป็นการล่าโดยอาศัยการไล่ด้วยความเร็วจากกล้ามเนื้อขาและน่อง เพียงแต่มีจุดที่แตกต่างกันใหญ่ๆ ลักษณะเด่นอีกอย่าง มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศทาง การวิ่งคล้ายเสือซีต้าร์ ที่มันมีอยู่
แต่อย่างไร ก็ตามถึงแม้จะมีชื่อว่าเป็นนักล่าที่ น่ากลัวที่สุด แต่สุดท้ายสัตว์ทุกชนิด ก็มีการพลาดได้เช่นกัน ในการล่าเหยื่อ อย่างไรก็ตามสำหรับการค้นพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์นั้น มันสามารถทำให้เราได้รับรู้ว่าในครั้งอดีตที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ต้องสร้างนวัตกรรมในการตรวจสอบฟอสซิลที่ให้ผลสมบูรณ์ และน่าเชื่อถือในข้อมูล
สนับสนุนโดย วิธีเล่นบาคาร่า ufabet
24
พ.ค.
2021
สำหรับเรื่องราวที่เกี่ยวกับอวกาศนั้น หลายคนมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัวของเรามากเกินไป แต่เปล่าเลย สำหรับในปัจจุบันนี้เรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศนั้น เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของเรามากๆ เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีต่างให้สามารถสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้น ในอวกาศว่ามีอะไรเกิดขึ้นใหม่บ้าง มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง แน่นอนว่าสมันต้องมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นเรื่องธรรมดาเพราะว่า แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกของเราที่เรานั้นคิดว่ามัน จะไม่มีทางเปลี่ยนไปมันยังเปลี่ยนไปเลย
มนุษย์เรานั้นสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อสิ่งที่ต้องการจะรู้ และในปัจจุบันนี้มนุษย์นั้น ได้มีการพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องที่เราศึกษากัน เป็นอย่างแรกที่เริ่มเกี่ยวกับระบบสุริยะของเรา สำหรับระบบสุริยะนั้น เชื่อเลยว่าหลายคนรู้จักกันเป็นอย่าง เพราะมันเป็นที่ที่โลกของเราอาศัยอยู่ และในวันนี้เราจะพูดถึง เรื่องพื้นผิวที่ร้อนฉ่าของดวงอาทิตย์
สำหรับพื้นผิวของดวงอาทิตย์มันเป็นอะไร ที่วุ่นวายโกลาหนมันเดือดปุดๆ และมีฟองขึ้นมาตลอดเวลา มีแก๊สความร้อนมากมาย แผ่ออกมาจากข้างในแผ่พลังงานเย็นแล้วก็กลับเข้าไปนี้ ในทางวิทยาศาสตร์เรียก ระบบการหมุนเวียนของพลังงานความร้อน ในเท่าที่ทราบมายังไม่เคยมีใครในโลกมนุษย์ ที่สามารถอยู่ใกล้กับพื้นผิวขฤองดวงอาทิตย์ได้
จนกระทั้งเดี่ยวนี้ดาวเทียมดวงใหม่ที่สามารถจับภาพ ภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้คุณนั้นรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากขึ้นทำให้สามารถมองเห็น พื้นผิวของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่าโฟโตสเฟียร์ ซึ่งมันก็คือพายุสุริยะ ปรากฏการณ์รุนแรงที่พื้นผิวของดวงอาทิตย์นั้นเอง
ถ้าหากว่าเราสามารถไปตรงนั้นได้ นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า เราน่าจะได้ยินเสียงระเบิดของพลาสมา ซึ่งน่าจะมีความร้อนที่บริเวณพื้นผิว มากเป็นหลายพันองศาเลยที่เดียวและคาดว่า น่าจะมีพายุแม่เหล็กที่มีการสร้างเคลื่อนแม่เหล็กตลอดเวลา สนามแม่เหล็กที่ทรงพลังอย่าง น่าเหลือชื่อ และในบางครั้งเส้นสนามแม่เหล็กเหล่านั้น จะเชื่อมต่อกับจุดร้อนบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์
เมื่อแก๊สกับพลาสมาเดือด มันก็น่าจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมามหาศาล เกิดเป็นระเบิดส่งลูกไฟออกมา มากมาย เท่าที่เคยเห็น ในกล้องโทรทัศน์กำลังขยายสูงของนาซ่า และสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ที่อยู่ไกลโลก เป็นหลายปีแสงแต่ยังสามารถส่งต่อความร้อนมายังโลกได้ พร้อมส่งพลังงานมายังโลกของเรา และพลังงานความร้อนนี้ ส่งผลประโยชน์ต่อมนุษย์มากมาย แน่นอนว่าเรื่องที่เราได้กล่าวไปนั้นเป็นอะไรเราไม่เคยรู้มาก่อนเลย ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับระบบสุริยะของเรา
สนับสนุนเรื่องราวโดย Ufabet เข้าสู่ระบบ
18
พ.ค.
2021
คุณว่าจักวารนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวหรือไม่ แน่นอนว่ามันมีความน่ากลัวอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว แต่เรื่องที่จะเกิดขึ้นก็มีความแตกต่างกันไป จักรวารนั้นมันใหญ่เอามากๆ จนเรานั้นไม่สามารถที่จะจินตนาการได้เลยว่าจะ มีอะไรซ้อนอยู่บ้าง และในตอนนี้เทคโนโลยีที่เรามีอยู่ก็สามารถที่จะสังเกตเห็นพื้นที่ของจักรวารได้เพียงแค่เกือบ 14,000 พันล้านปีแสง ซึ่งในพื้นที่ ที่ไกลกว่านั้นไม่สามารถที่จะรู้ได้
ในจักรวารนั้นมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนธรรมดาอย่างเราๆ นั้นก็ไม่ได้สนใจที่จะศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะความคิดที่ว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่เราจะต้องศึกษาอยู่แล้ว เรามีสถานการณ์โลกกาวินาศมากมาย ซึ่งในหลายวัฒนธรรมเชื่อว่า ภาพจุดจบของโลกนั้น จะเป็นอะไรที่น่าทึ่ง แต่ถ้าว่าเรานั้นต้องเอาชีวิตรอด
จากเหตุการณ์ดังกล่าวให้ได้ก่อนถึงจะมีโอกาสได้เห็นภาพจุดจบดังกล่าว อย่างไรก็ตามสถานการณ์โลกาวินาศที่มีความอันตราย และน่าเชื่อถือได้มากที่สุดนั้นมาจากนักจักรวารวิทยา ที่ได้มีการศึกษาถึงเรื่องนี้และซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Higgs Boson Domsday หรือวันโลกาวินาศ จากอนุภาคฮิกส์โบซอน ซึ่งนักจักรวารวิทยาหลายคนรวมไปถึง Stephen Hawking พวกเขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นหรืออาจจะกำลังเกิดขึ้นแล้ว โดยมันจะเริ่มต้นโดยฟองที่เต็มไปด้วยพลังงานของอนุภาคฮิกส์โบซอนที่ผันผวน นักจักรวารวิทยาบางคนคิดว่าสิ่งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วซึ่งฟองที่เต็มไปด้วย
อนุภาคฮิกส์โบซอนกำลังเดินทางมายังโลกของเราจากส่วนที่มืดมิดของจักรวาร แต่ก็ยังมีหลายคนบอกว่าสิ่งนี้ถือเป็นอนาคตที่ดี แต่ถ้าว่าโลกของนั้นก็อาจจะหายไปจากจักรวารนานแล้ว ก่อนที่มันจะมาถึง เพราะกว่าที่เหตุการณ์นี้จะมาถึงโลกของเราให้เราได้เห็นนั้น โลกของเราก็คงจะไม่อยู่แล้วเพราะมันอาจจะหายไปจากการที่ดวงอาทิตย์ระเบิด หรือการที่ถูกดาวเคราะห์หรือวัตถุนอกโลกมาพุ่งตรงเข้ามาชนกับโลกเข้าอย่างจังจนทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่บนโลกหายไป
แต่ถึงแม้ว่าเรานั้นจะไม่สามารถที่จะได้เห็นวันโลกาวินาศ จากอนุภาคฮิกส์โบซอน และเราก็คงจะไม่ได้เห็นวันที่ดวงอาทิตย์ระเบิดอีก เพราะกว่าที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเราก็คงจะตายแล้วเกิดใหม่อีกเป็นสิบๆ รอบเลยก็ว่าได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นธรรมชาติที่ได้สร้างและได้มีการกำหนดไว้แล้วซึ่งเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้
สนับสนุนโดย แทงบอลออนไลน์ ภาษาไทย
12
พ.ค.
2021
หลายๆ คนรู้ๆ กันดีว่าในระบบสุริยะของเรานี้มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมามากมาย คุณรู้หรือไม่ว่าในระบบสุริยะของเรานั้นนอกจากมันจะประกอบไปด้วยดาวเคราะห์ทั้งหมดแปดดวงแล้ว
นอกจากนี้มันยังดาวเคราะห์แคระ ดาวหาง ดาวเคราะห์น้อย และวัตถุต่างๆ อีกมากมาย คุณรู้หรือไม่ว่าในระบบสุริยะที่เราคุ้นเคยกันดี และได้ยินกันบ่อยๆ นี้ คุณแน่ใจหรือว่าคุณรู้จักมันดีพอแล้ว ถึงแม้ว่าระบบสุริยะนี้เราจะคุ้นเคยแค่ไหน แต่รับรองได้เลยว่าคุณยังรู้จักมันทั้งหมดแน่นอน
มีบางอย่างที่เกิดขึ้นมามากมาย โดยที่บางที่เราก็รู้จักและไม่รู้จัก สิ่งที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ บางทีอาจจะไม่เป้นความจริงก็ได้ แต่บางเรื่องที่เราไม่เคยได้ยิน แต่เรากลับเชื่อจนสนิทใจกับสิ่งที่เราพึ่งได้ยินเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าสิ่งที่ได้ยินมาจะมาจากบุคคลที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยก็ตาม ดาวเคราะห์ต่างมากมมายในระบบสุริยะของเรานี้
มีทั้งดวงที่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริง แต่บางดวงก็เป็นเพียงดาวที่มีการสมมติขึ้นมาเท่านั้น นิบิรุเป็นหนึ่งในดาวสมมติที่มีความเชื่อกันว่ามันอาจจะแอบซ้อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ในระบบสุริยะของเราและในขณะที่องค์การนาซ่าบอกว่ามันไม่ได้มีอยู่แต่นักทฤษฏีสมคบคิด ก็ยังเชื่อว่ามันมีอยู่จริง และมันยังจะพุ่งชนเข้ากับโลก
ซึ่งมีคนบางกลุ่มเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงในช่างศตวรรษที่ 21 สำหรับในกรบันทึกนั้นนิบิรุ ได้ถูกเรียกว่าดาวเคราะห์ดาวเคราะห์เอกซ์ ซึ่งนิบิรุได้มีการถูกเสนอครั้งแรกในปี 1976 ในหนังสื่อ THE 12th PLANET ที่ได้มีการถูกเขียนขึ้น
โดย Zecharia Sitchin ซึ่งเขาก็ได้อ้างว่านิบิรุนั้นจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ 3,600 ปี ซึ่งหลายปีต่อมาก็ได้มีร่างทรงนามว่า Naucu Lieder เธอได้ประกาศตนเองว่ามนุษย์ต่างดาวได้เตือนเธอว่านิบิรุจะพุ่งชนเข้ากับโลกในปี 2003 และเธอก็ได้เปลี่ยนมาเป็นปี 2012
แต่ถ้ามาว่าจนถึงในตอนนี้ ก็ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ว่านี้ขึ้นมาแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าในปี 2011 จะมีดาวหาง Elenin พุ่งตรงผ่านโลกของเราไปและได้แตกสลาย หลังจากที่มันได้เข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป ซึ่งนักทฤษฏีสมคบคิดเชื่อกันว่าดาวหางดวงนั้นเป็นดาวเคราะห์นิบิรุ ที่โคจรจรเข้ามานเส้นทางที่จะพุ่งชนเข้ากับโลกซึ่งมันก็พลาดไป แต่มันก็จะกลับมาอีกครั้งใน 3,600 ปีข้างหน้า
สนับสนุนโดย gclub มือถือ ทดลองเล่น
5
พ.ค.
2021
อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าโลกของเรานั้นอาศัยอยู่ในระบบสุริยะ ที่มีดวงดาวต่างๆ อยู่มากมาย และระบบสุริยะของเราก็เป็นเพียงระบบ ระบบหนึ่งในดาราจักรทางช้างเผือกเท่านั้น ระบบสุริยะที่ว่าเป็นที่อยู่ของโลก ดวงอาทิตย์และดาวบริวารของดวงอาทิตย์นั้นก็คือดาวเคราะห์ในระบบนั้นเอง คุณคิดว่าคุณรู้จักระบบสุริยะของเราดีแค่ไหนกัน ในสิ่งที่คุณรู้อาจจะยังไม่ใช้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันก็ได้
หลายๆ คนคิดว่าระบบสุริยะ ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ดวงต่างๆ ในระบบสุริยะนั้นไม่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มก็ได้ เพราะเรานั้นรู้จักกันดีอยู่แล้วเพราะมันเป็นระบบที่ใกล้ตัวของเราที่สุด แล้วคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณรู้จักมันดีมากพอแล้ว แต่อย่าพึ่งได้ใจไปเพราะมันไม่มีอะไรที่แน่นอน โลกของเรา คุณคิดว่าคุณรู้จักมันดีมากพอหรือยัง แน่นอนว่ายังคุณยังไม่รู้จักมันดีมากพอ
แรงโน้มถ่วงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้เรานั้นสามารถยืนหรือทำสิ่งต่างๆ บนโลกได้โดยที่เราไม่ลอยออกไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่และไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่นักบินอวกาศหลายคนจะรู้ศึกว่าไร้น้ำหนักในอวกาศ และพวกเขาก็จะลองลอยได้อย่างอิดสระเฉกเช่นที่เราเคยได้เห็นกันในภาพยนตร์ ราวกับว่าในอวกาศนั้นไร้ซึ่งแรงโน้มถ่วง แต่เมื่อคุณนั้นได้อยู่ในวงโคจรรอบวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวคุณนั้นก็จะอยู่ภายใต้อิทธิพลพลของแรงโน้มถ่วงจากที่อื่นเสมอ
ยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นบนสถานีอวกาศนานาชาติที่แม้ว่าคุณจะเห็นนักบินอวกาศ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในยานลองลอยได้อย่างอิดสระ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในระดับความสูง 400 กิโลเมตร ของสถานีอวกาศนานาชาตินั้นไม่สามารถทำให้น้ำหนักของคุณเป็นศูนย์ได้ และถ้าหากว่าเรามีการสร้างตึกสูง 400 กิโลเมตร สูงขึ้นไปบนอวกาศแล้วลองชั่งน้ำหนักดูเราจะพบว่าน้ำหนักของเราไม่ได้แตกต่างไปจากบนโลกเท่าไหร่เลย แถมเรายังจะสามารถที่จะเดินหรือยืนได้อย่างปกติเฉกเช่นกับที่เรานั้นยืนอยู่บนผิวโลกของเรา
ด้วยความสูงที่ระดับ 400 กิโลเมตร แรงโน้มถ่วงนั้นจะลดลงไปเพียง 13% เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้เราลอยได้ แต่ทำไมนักบินอวกาศนานาชาติที่อยู่บนยานอวกาศถึงอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก และคำตอบที่ได้ก็คือการที่เรายืนอยู่บนอาคาร อาคารมันอยู่นิ่งๆ แต่กลับกันสถานีอวกาศกำลังโคจรรอบโลก
ถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือการที่สถานีอวกาศโคจรรอบโลกก็เปรียบเหมือนกับลิฟต์ที่กำลังตกลงมา และถ้าหากเราขึ้นลิฟต์แล้วเกิดสะลิงขาดช่วงเวลาก่อนที่เราจะถึงพื้นเราและลิฟต์ จะตกลงมาพร้อมกันซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นทำให้เราไม่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงให้ติดกับผนังหรือพื้นด้านใดด้านหนึ่งนั้นเอง
สนับสนุนโดย. ufabet