ข้อมูลด้านในของดาวพุธ สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียดข้อมูลในพื้นที่แกนกลางของดาวพุธว่ามีลักษณะเป็นแบบไหน โดยจากการสำรวจของวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดาวพุธนั้นจะมีแกนกลางขนาดใหญ่มหึมาซึ่งด้านในการการนั้นจะประกอบไปด้วยเหล็กสำหรับสาเหตุสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าแกนกลางของดาวพุธประกอบไปด้วยเหล็ก  นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่ออีกว่าตรงจุดของการกลางของดาวพุธนั้นยังประกอบไปด้วยของเหลว นั่นก็เพราะว่าถ้าจะสังเกตให้ดีในขณะที่ดาวพุธนั้นมันมีการหมุนมันจะมีการฝ่ายเล็กน้อยด้วย 

          อย่างไรก็ตามถัดออกมาจากตัวแกนกลางของดาวพุธนั้นเราจะสามารถตรวจสอบเจอเข้ากับเนื้อของดาวพุธซึ่งบริเวณนี้เราเรียกกันว่าเป็นชั้นหินซิลิเกต โดยชั้นหินนี้มีเพียงแค่บางๆเท่านั้นมีความหนาเพียงแค่ประมาณ 600 กิโลเมตรซึ่งถ้าหากเปรียบความหนานั้นก็คล้ายคลึงกับความหนาของเนื้อโลกนั่นเอง 

             สำหรับส่วนที่ถอดออกมาจากเนื้อของดาวพุธนั้นเราจะเรียกกันว่าเปลือกชั้นนอกซึ่งตรงบริเวณนี้นั้นทางนักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อว่าเรื่องของดาวพุธนั้นไม่มีความคล้ายคลึงกับเปลือกโลกที่เราอาศัยอยู่เลยโดยนักวิทยาศาสตร์มองว่า ตรวจชั้นนอกของดาวพุธนั้นเป็นลักษณะขอชั้นหินบางๆเท่านั้นและประกอบไปด้วยชั้นหินเพียงแผ่นเดียวอีกด้วย  

     สิ่งที่จะสามารถมองเห็นได้ต่อออกมาจากเปลือกชั้นนอกก็คือเปลือกชั้นบรรยากาศซึ่งบริเวณนี้จึงมีแรงโน้มถ่วงอ่อนๆเนื่องจากว่าดาวพุธนั้นมีแรงโน้มถ่วงที่บนพื้นผิวดังนั้นจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้ของดาวพุธจะถูกรังสีซึ่งส่งมาจากดวงอาทิตย์ทำการแผดเผาดังนั้นบริเวณนี้จึงจะประกอบไปด้วยแก๊สเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและเป็นลักษณะของชั้นบรรยากาศที่มีความเบาบางเป็นอย่างมาก

          ยังไงก็ตามด้านนอกสุดนั้นเราสามารถมองเห็นหลุมบนพื้นผิวได้เนื่องจาก  สล็อต ufabet เว็บตรง   ว่าดาวพุธมีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มากนักหากเทียบกับโรคหรืออาจจะกล่าวได้ว่าดาวพุธนั้นเป็นดาวที่มีขนาดที่เล็กมากๆดังนั้นแรงโน้มถ่วงจึงไม่มีมากพอที่จะสามารถสร้าง ชั้นบรรยากาศที่มีความหนาแน่นมากได้และนั้นชั้นบรรยากาศตรงบริเวณนี้จึงไม่สามารถที่จะมาปกป้องพื้นผิวของดาวพุธได้

ส่งผลทำให้ถ้าหากมีอุกกาบาตผ่านมาก็อาจจะมีอุกกาบาตพุ่งชนดาวพุธจึงเกิดเป็นหลุมได้นั่นเองอย่างไรก็ตามเมื่อเราไปสังเกตให้ดีบริเวณโซนนี้ของดาวพุธนั้นจะเห็นได้ว่ามีหลุมมีบ่อเยอะแยะมากมายเพราะดาวพุธนั้นมักจะถูกอุกกาบาตชนตลอดระยะเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมา

ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นได้ว่าบริเวณหลุมอุกาบาตนั้นโดยรอบจะมีลักษณะของรอยต่างๆทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่เพราะแต่ละครั้งที่อุบาทว์ชนนั้นจะมีลักษณะการชนที่แตกต่างกันออกไป นั้นเอง 

Comments are closed.