จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก  เมื่อประมาณ 335 ล้านปีก่อนนั้นโลกของเรานั้นยังไม่มีทวีปต่างๆเหมือนในปัจจุบันนี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าประมาณ 335 ล้านปีนั้นมีทวีปอยู่แห่งเดียวนั่นก็คือแพนเจีย แต่โลกมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อวันเวลาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นแพนเจียก็มีการแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน

เริ่มแรกของการแบ่งแยกจะเป็นทวีปออสเตรเลียและทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ หลังจากนั้นก็แบ่งเป็นทวีปแอฟริกาเอเชียและยุโรป ทำให้เมื่อหลายพันปีต่อมาโลกในปัจจุบันของเราก็มีหลายทวีปนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ได้มีความเชื่อมั่นว่าในขณะที่วันเวลาผันเปลี่ยนไปทุกๆวันนั้นทวีปต่างๆก็มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ซึ่งบางทวีปก็จะมีการเคลื่อนตัวเข้าหากันแต่บางทวีปก็มีการเคลื่อนตัวแยกออกจากกัน อย่างไรก็ตามการเคลื่อนตัวเข้าหากันหรือการแยกตัวออกจากการที่จะถามว่าทำให้เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนนั้นก็ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าหนึ่งร้อยล้านปีเลยทีเดียว

       สำหรับเหตุการณ์ในอนาคตในอีก 100 ปีนับจากนี้ไปถ้าหากว่ามนุษย์เรายังคงมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ อย่างต่อเนื่องและโลกก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้นอีก 1.2 เมตร จะส่งผลให้บางพื้นที่นั้นถูกน้ำทะเลทำให้จมหายไป

อย่างเช่นเกาะบาฮามาส จากการคำนวณของนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านับจากนี้ไปอีก 200 ปีประชากรของโลกนั้นจะมีมากขึ้น และอากาศบนโลกก็จะเริ่มร้อนขึ้น ที่สำคัญเมื่อคนเยอะขึ้นแต่ขนาดพื้นที่น้อยลงก็จะทำให้มีลักษณะอัดเหมือนอยู่ในกระป๋องเลยทีเดียว 

        นอกจากนี้ด้วยนักวิทยาศาสตร์ได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็จะมีการยืดอายุของคนให้มีอายุยาวนานมากยิ่งขึ้นซึ่งในอีก 200 ปีข้างหน้านั้นผู้คนอาจจะมีอายุยาวนานถึง 108 ปีเลยทีเดียว แต่ผลเสียที่ตามมาของการที่มีคนอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้นก็คือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันเยอะขึ้น

และมันจะส่งผลทำให้ในอนาคตข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นการ์ดน้ำมันฟอสซิลต่างๆนั้นก็จะค่อยๆหมดลงไปนั่นเอง นอกจากนี้ทวีปต่างๆก็จะมีการเคลื่อนที่ออกจากกันซึ่งคาดว่าในอีก 200 ปีข้างหน้านั้นจะห่างกันไกลถึง 5 เมตรเลยทีเดียว 

         อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์มีการคาดการณ์กันว่าในอีก 5000 ปีข้างหน้านั้นมนุษยชาติจะมีการอาศัยอยู่ในแคปซูล นอกจากนี้ถ้าในอีก 150 ปีข้างหน้าโลกของเราก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นทะเลทรายสะฮารา

ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีแต่ความแห้งแล้งก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นสถานที่ที่มีต้นไม้และป่าเขา กลายมาเป็นสวนสวรรค์เขตร้อนจากการที่ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องมานานหลายร้อยปี ดังนั้นมันจึงจะสามารถเปลี่ยนทะเลทรายอันแห้งแล้งมากลายเป็นป่าทึบได้ 

 

สนับสนุนโดย.    www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน

Comments are closed.