นักวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับการกำเนิดของดวงจันทร์ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักวิทยาศาสตร์มักจะคิดว่าพวกมันเกิดมาจากดาวเคราะห์ขนาดเล็กชนกับโลกในตอนที่โลกยังอายุน้อยๆประมาณ 4500 ล้านปีก่อนและแน่นอนว่านักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแรงกระแทกที่เกิดขึ้นนั้นจะทำลายดาวเคราะห์ขนาดเล็กและทำให้เกิดแกนโลกพลิกกลับขั้วเศษเล็กเศษน้อย

จากการชนกระจัดกระจายสู่อวกาศและก่อตัวเป็นแม่เมื่อเวลาผ่านไปแถวนั้นก็มารวมกลุ่มกันอีกครั้งหนึ่งแล้วถือกำเนิดกลายเป็นดวงจันทร์นั้นเอง 

        สำหรับดวงจันทร์นั้นมันจะอยู่ใกล้และสว่างจนเรามองเห็นในเวลากลางวันได้ซึ่งดวงจันทร์นั้นเป็นวัตถุเดียวในอวกาศที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเนื่องจากว่ามันมีขนาด 1 ใน 4 ของโลกทำให้มันเป็นดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาดาวบริวารด้วยกันในระบบสุริยะซึ่งดวงจันทร์มันใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุดบนท้องฟ้าตอนกลางคืนนอกจากนี้พื้นผิวของดวงจันทร์นั้นยังมีหลุมอุกกาบาตมากมายที่มองเห็นด้วยกล้องส่องทางไกลหรือว่ากล้องโทรทัศน์

         อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าดวงจันทร์นั้นถือกำเนิดก่อตัวขึ้นมาเมื่อประมาณ 4500 ล้านปีก่อนแต่  gclub   พื้นผิวนั้นแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย

ในเวลาพันล้านปีที่ผ่านมาสำหรับพื้นผิวบนดวงจันทร์นั้นจะเป็นพื้นที่ราบใกล้กับทะเลมืดซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเกิดจากการปะทุของลาวาที่ไหลท่วมเมื่อประมาณ 3000 ล้านปีก่อนดังนั้นพื้นที่บริเวณรอบๆพื้นที่เหล่านี้จึงเป็นที่ราบสูงบนดวงจันทร์ที่มีเนินเขาและหุบเขาเก่าแก่มากมายที่เต็มไปด้วยเศษอุกกาบาตนับไม่ถ้วนนั่นเอง 

         สำหรับข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นพบอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับดวงจันทร์ก็คือดวงจันทร์จะหมุนรอบโลก 1 รอบโดยใช้ระยะเวลา 2732 วันและดวงจันทร์นั้นมีมวล 0.1 67 เท่ากับของโลกนอกจากนี้ระยะทางระหว่างดวงจันทร์กับโลกนั้นก็ห่างกันถึง 385000 กิโลเมตรเลยทีเดียวและที่สำคัญเส้นผ่าศูนย์กลางของดวงจันทร์เฉลี่ยอยู่ที่ 3474 กิโลเมตรนั่นเอง 

       อย่างไรก็ตามสำหรับดวงจันทร์แล้วประกอบไปด้วยแกนชั้นในตามด้วยแกนชั้นนอกและต่อด้วยเนื้อดวงจันทร์ชั้นล่างตามด้วยเนื้อดวงจันทร์และเปลือกซึ่งแต่ละส่วนนั้นก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

       ข้อมูลสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับดวงจันทร์ก็คือดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองและใช้เวลาพอๆกับการโคจรรอบโลกดังนั้นเราจึงมองเห็นเพียงด้านไกลของดวงจันทร์เสมอ นอกจากนี้แรงโน้มถ่วงบนดวงจันทร์จะค่อนข้างอ่อนกว่าแรงโน้มถ่วงของโลกมากเพราะดวงจันทร์มีมวลน้อยดังนั้นเมื่อมีนักบินอวกาศไปเดินอยู่บนดวงจันทร์ก็มักจะมีน้ำหนักแค่ 1 ใน 6 ของน้ำหนักบนโลกและนักบินอวกาศเหล่านั้นก็จะสามารถกระโดดได้สูงกว่าการกระโดดบนโลกถึง 6 เท่าทำไมได้สวมชุดอวกาศที่ถ่วงน้ำหนักเอาไว้

 

Comments are closed.