เราจะลอยได้เมื่อโลกหยุดหมุน

เราจะลอยได้เมื่อโลกหยุดหมุน

admin No Comments

อยากที่ทุกคนทราบกันนี้ว่าโลกของเรานั้นอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ นอกจากที่โลกของเราจะหมุนรอบดวงอาทิตย์นั้น โลกของเรามันยังหมุนรอบตัวเองอีกด้วย มีใครเคยสงสัยหรือตั้งคำถามขึ้นมาไหมว่า ถ้าหากโลกของเรานั้นหยุดหมุนจะเกิดอะไรกับโลกเราบ้าง ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการที่โลกหมุนรอบตัวเองนี้มันจะเกี่ยวโยงถึงเรื่องเวลาโดยตรง

ซึ่งมีผลกระทบต่อสนามแม่เหล็กของโลกที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป และจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆมากมายอย่างเช่นเรื่อง สภาพอากาศ ฤดูกาล เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าถ้าหากโลกหยุดหมุนรอบตัวเองแล้วนั้น แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งในบทความนี้เราจะพาพูดถึงการหยุดหมุนของโลก ที่จะทำให้เราตัวเราลอยได้ ซึ่งข้อสันนิฐานนี้ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด เพราะเป็นเพียงข้อสันนิฐานจากองค์กร NASA เท่านั้น

เนื่องจากโลกยังไม่ได้พบเจอสิ่งนั้นจริงๆมันเลยยังเป็นข้อสันนิฐานต่อไป จากที่ได้กล่าวไปถ้าโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง จะทำให้ตัวของเรานั้นลอยได้ ฟังดูแล้วอาจะเป็นเรื่องที่น่าสนุกเลยว่าไหม แต่มันสนุกจริงๆเหรอ และไม่มีเพียงแค่เราลอยได้เท่านั้น ทุกสรรพสิ่งที่อยู่บนพื้นผิวโลกก็จะลอยขึ้นมาทั้งหมดเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่การล่องลอยอยู่บนอากาศเท่านั้น

อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงโลกหยุดหมุนรอบตัวเองเท่านั้น แต่มันยังคงหมุนโคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์เหมือนเดิม ซึ่งผลที่จะตามมาหลังจากที่ทุกอย่างบนโลกลอยขึ้นมาแล้วนั้น ก็จะเกิดแรงเหวี่ยงเกิดขึ้น โดยแรงเหวี่ยงนี้จะเหวี่ยงไปทางด้านของทิศตะวันออก ซึ่งเป็นแรงเหวี่ยงที่รุนแรงและรวดเร็วมากโดยประมาณ 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยก็ว่าได้ และนอกจากนี้การที่โลกหยุดหมุนจะก่อให้เกิดลมพายุขนาดใหญ่และรุนแรงเป็นอย่างมาก

ถ้าหากให้เทียบความรุนแรงของพายุที่เกิดขึ้นนี้ สามารถเทียบเท่ากับแรงของระเบิดปรมาณูเลยทีเดียว เกิดทั้งแรงเหวี่ยงและลมพายุนั้นจะยิ่งความเสียหายกับโลกเป็นอย่างมาก ทุกอย่างจะหลอมรวมเป็นสิ่งเดียวกัน และเป็นอยู่อย่างนั้นกว่าโลกจะกลับมาหมุนรอบตัวเองอีกครั้ง

ซึ่งจะทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และอาจจะไม่มีสิ่งชีวิตใดหลงเหลืออยู่บนโลกได้ แต่อย่างที่ได้กล่าในข้างต้นไปแล้วว่าทฤษฎียังเป็นข้อสันนิฐานอยู่ ถ้าหากว่ามันจะเกิดขึ้นจริงก็คงอีกหลายล้านปีข้างหน้า ถึงตอนนั้นถ้าหากว่าโลกยังมีมนุษย์อยู่ เราอาจจะสามารถสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำเลิศ พร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนันไม่ผ่านไลน์

มนุษย์สูญพันธุ์จากผลข้างเคียงการพัฒนาเทคโนโลยี

admin No Comments

เทคโนโลยีถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์นั้นได้ค้นหาและประดิษฐ์มันขึ้นมา เพื่อความสะดวกสบายและความต้องการของมนุษย์ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อทำให้โลกรู้ว่า โลกของเรานั้นเริ่มต้นที่เข้าสู่การพัฒนาอย่างเพิ่มมากขึ้น และมันก็เป็นเช่นนี้มาโดยเวลา ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆ อย่างในสมัยก่อนที่หลายคนอาจจะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น

มันก็สามารถเกิดขึ้น จนถึงให้ทุกวันนี้มนุษย์เรากล้าที่จะฝัน กล้าที่จะจิตนาการมากขึ้นถึงแม้ว่าบางอย่างมันจะดูเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เช่น การสื่อสารไร้พรมแดน อย่างโทรศัพท์ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ก็เกิดขึ้นได้มาแล้ว เป็นต้น แล้วจะแปลกอะไรถ้ามนุษย์ในยุคปัจจุบันจะคิดว่าการเดินทางข้ามเวลาด้วยไทม์แมทชีนจะมีจริง ถึงแม้ว่านักวิทยาศาสตร์เองจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

แต่ในอนาคตใครเหล่าที่จะรู้ได้ เราก็ต่างมองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ดีกันนั้น แต่ในทางกลับกันเทคโนโลยีเองก็สามารถทำร้ายเราได้เล่นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่การนอนเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืด แล้วจะทำให้สุขภาพเสียเท่านั้น แต่มันยังอันตรายถึงชีวิตที่จะสามารถทำให้มนุษย์ชาติสูญพันธุ์ไปเลยก็ยังได้ ยิ่งมนุษย์เราพัฒนาเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีผลกระทบมากขึ้น

เพราะในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นยุคที่เทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้บางครั้งเทคโนโลยีเหล่านั้นก็สามารถกลับมาเป็นภัยต่อมนุษย์และระบบนิเวศในอนาคตได้ ยิ่งถ้าหากผู้ครอบครองนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิดแล้วละก็จะยิ่งน่ากลัว ได้มีการสรุปออกมาว่า 1 ในเทคโนโลยีที่สร้างความน่ากลัวมากจนต้องมีการทำอนุสัญญาขึ้นทั่วโลกนั้นก็คือ เทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์

หรือ นาโนเทค ที่มีความสำคัญต่อการรักษาโรคเป็นอย่างมาก เพราะสามารถที่จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ในระดับโมเลกุลหรืออะตอม แต่ก็ได้มีทีมวิจัยบางส่วนที่ได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาสร้างเป็นอาวุธชีวภาพที่ยากต่อการรับมือเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดต่อมวลมนุษย์ได้ เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้ 162 ประเทศทั่วโลกนั้นต่างพากันลงนามต่ออนุสัญญาว่าด้วยการห้ามพัฒนา ผลิต สะสมอาวุธชีวภาพและท็อกซินที่ว่าด้วยการทำลายอาวุธดังกล่าว

เพื่อไม่ให้มีอาวุธที่จะใช้ในการทำร้ายผู้คน จากข้อมูลทำให้เห็นแล้วการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นก็ยังถือว่ามีข้อเสีย แม้ว่าในบางช่องทางนั้นจะเป็นเรื่องดีก็ตาม เพราะเทคโนโลยีนั้นจะสามารถก่อนให้เกิดการทำลายล้างเผ่ามนุษย์ไปได้เช่นเดียวกัน จนมนุษย์ไม่มีชีวิตเหลือโลกอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

 

สนับสนุนโดย   สูตร บาคาร่า ufabet

เครื่องจักรคิดได้เหมือนคน

admin No Comments

เทคโนโลยีได้เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อมนุษย์มากขึ้นทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน และการทำงาน ในความเป็นจริงนั้นเทคโนโลยีได้เข้ามาแทรกแซงชีวิตของมนุษย์มาเป็นเวลานานถ้าเราสังเกตให้ดี อย่างเช่น อุตสาหกรรมการพิมพ์ เดิมที่ก่อนที่สื่อสิ่งพิมพ์จะเกิดขึ้น มนุษย์เราใช้วิธีการเขียน การวาดภาพ ซึ่งในเวลาต่อการพิมพ์นั้นได้เริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น

 

มนุษย์ไม่จำเป็นต้องเสียแรงเขียนให้เหนื่อยอีกต่อไป จนในปัจจุบันสื่อสิ่งพิมพ์ในหลายๆ บริษัทต้องปิดตัวลงไป เพราะมนุษย์ไม่จำเป็นต้องรับข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์อย่าง นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์อีกต่อไป เป็นต้น เราจะเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าเทคโนโลยีนั้นถูกแทรกซึมมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว เพียงแต่ว่าในยุคปัจจุบันเราอาจจะเห็นได้ชัดมากกว่าเดินเท่านั้น

และเทคโนโลยีในปัจจุบันที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมคือ ระบบปฏิบัติการ Ai ระบบการทำงานนี้ถูกสร้างขึ้นให้ไปรองรับการทำงานต่างๆ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์ หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้เราจะมีพูดถึงเครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ที่จะมีความสามารถคิดแทนคนได้ ถ้าจะบอกอย่างนั้น หุ่นยนต์ก็คิดแทนคนได้เช่นกันใช่หรือไม่ แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างนั้น แต่หุ่นยนต์นั้นจะพัฒนาไปเพิ่มมากขึ้นกว่าจนไม่จำเป็นต้องใช้งานจากมนุษย์อีกต่อไปเลยทีเดียว ซึ่งที่เราจะพูดถึงคือเครื่องจักรและคอมพิวเตอร์ที่ยังคงถูกควบคุมได้

โดยมนุษย์อยู่ มันมีความเป็นไปได้ที่ไม่แตกต่างจากหุ่นยนต์ก็ว่าได้ สิ่งที่จะเป็นได้ก็คือคอมพิวเตอร์จะสามารถจำลองความคิดแบบตระหนักรู้ หรือการคิดแบบมีสติสัมปชัญญะเหมือนกับมนุษย์ และในปัจจุบันเองเทคโนโลยีแบบนี้เรียกว่า Deep Mind ของ Google นั้นยังอยู่ในการพัฒนา แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

จึงมีความเป็นไปได้ที่คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะเปรียบเสมือนเครื่องจักรเหนือมนุษย์ ที่มีทักษะ มีจิตใจ มีความคิด มีความรู้สึกได้เหมือนกับมนุษย์อย่างเราก็เป็นได้ เช่นเดียวกับหุ่นยนต์ที่จะมีทักษะต่างๆเทียบเท่ากับมนุษย์ แต่สิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์จะถูกพัฒนาเพิ่มมากขึ้นคือมันจำเป็นต้องรอให้มนุษย์ป้อนข้อมูลให้ เพียงแค่มันทำการศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเข้าใจ

มันจะสามารถส่งข้อมูลการเรียนรู้ที่ทำความเข้าใจแล้วไปยังหุ่นยนต์ตัวอื่นได้ แล้วลองคิดดูว่าในขณะที่หุ่นตัวอื่นนั้นก็กำลังเรียนรู้เรื่องอื่นเช่นเดียวแล้วส่งข้อมูลที่เรียนรู้ถึงหุ่นยนต์ตัวอื่นเช่นเดียว หุ่นยนต์จะมีความรู้มากแค่ไหนเพียงแค่เรียนรู้ 1 ตัว สามารถที่จะกระจายความรู้ให้หุ่นยนต์ทุกตัวได้ และนี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้นั้นเอง

และเป็นไปได้อย่างมากเลยว่าเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ และหุ่นยนต์จะสามารถทำงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อีกต่อไป เพราะฉะนั้นมนุษย์เราเองก็ควรที่จะตามและเรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีให้ทัน เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีนั้นอยู่เหนือเราได้

 

 

สนับสนุนโดย   จีคลับ สล็อต มือถือ

มนุษย์มีต้นกำเนิดแรกเริ่มมาจากแบคทีเรีย

admin No Comments

ว่ากันว่ามนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการมาจากลิงใช่หรือไม่ ซึ่งในทฤษฎีนี้ทำให้หลายๆคนนั้นมีความสับสนกันเป็นอย่างมาก ทำให้มีความเชื่อที่ว่ามนุษย์นั้นมีต้นกำเนิดมาจากลิง แล้วมันต่างกันยังล่ะ ก็เข้าใจถูกแล้วไม่ใช่หรือ? มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย อันดันแรกอยากจะให้ทุกคนทำความเข้าใจก่อนว่า การกำเนิด กับ การวิวัฒนาการ นั้นมีความแตกต่างกันอย่างเช่น ถ้าถามว่าเราเกิดมาจากอะไร?

เราจะตอบได้ทันทีว่า เราเกิดมาจากพ่อกับแม่ แต่ในคำว่า วิวัฒนาการนั้น หมายความว่า เราได้พัฒนาจากลักษณะของลิงจนกลายเป็นมนุษย์ในแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งนั้นหมายถึงว่าต้นกำเนิดที่สร้างมนุษย์และลิงมานั้นเป็นอย่างอื่นมาก่อนเช่นเดียวกัน แต่ต้นกำเนิดของมนุษย์ที่แท้จริงมันคืออะไรล่ะ?

ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีนักวิทยาศาสตร์หลากหลายทีมได้ทำการคิดค้นหาว่ามนุษย์นั้นเกิดมาจากอะไรกันแน่ และมีทฤษฎีที่ได้กล่าว่า มนุษย์เกิดมาจากแบคทีเรียสีม่วง ที่เกิดจากแร่ธาตุบนทะเลสาบ จากการสังเคราะห์แสงและสภาพแวดล้อม ทำให้แบคทีเรียกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เริ่มแตกตัวและ

มีอะไรยื่นออกมา และกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ในปัจจุบันเราเรียกมันว่า ปลา จากปลากในเวลาต่อมาได้เริ่มกลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน และหลังจากนี้เองก็ได้เริ่มมีการวิวัฒนาการสายพันธุ์ให้เป็นสัตว์บก ที่เริ่มมีความแตกต่างของการใช้ชีวิต การล่าเยื่อ นั้นอาจจะเป็นเพราะเมื่อครั้งที่ยังเป็นแบคทีเรียอยู่นั้น

อาจจะมีเซลล์หลายอย่างได้แยกกลุ่มออกไป ทำให้ในวิวัฒนาการทางด้านต่างๆแตกต่างกันออกไปนั้นเอง เป็นเช่นนี้ก็เท่านั้นกับว่าความเชื่อที่ว่ามนุษย์เกิดมาจากลิงนั้นน่าจะฟังผิดไปหน่อย แต่ถ้าคุณบอกว่ามนุษย์เกิดจากลิง แน่นอนว่าคำถามต่อไปมันจะต้องตามมาถามคุณอย่างแน่นอนว่า แล้วลิงเกิดมาจากอะไร

เอาล่ะยากกว่ามนุษย์เกิดมาจากลิงอีกสินะ ถึงว่าทฤษฎีจะยังไม่ได้การยืนยันอย่างแน่ชัด เราเองนั้นก็สามารถด่วนสรุปไปได้ว่ามนุษย์เกิดจากอะไรกันแน่ แต่ที่ชัดเจนอยู่อย่างหนึ่งคือ มนุษย์ไม่ได้เกิดจากลิง แต่มนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิงต่างหาก

ซึ่งในปัจจุบันเองนั้นเรื่องการหาความจริงของจุดกำเนิดของมนุษย์ ยังเป็นการวิจัยที่ยังสืบเนื่องกันมาอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ได้หยุดหาคำตอบจากเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าถ้าในอนาคตมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีในการค้นหา และวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น ไม่เร็วก็ช้าเราอาจจะได้รู้กันก็เป็นไปได้ว่า แท้จริงแล้วมนุษย์เรามีต้นกำเนิดมาจากอะไร หรือ มีต้นกำเนิดจากแบคทีเรียจริงๆกันแน่

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   พนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ100

Interstellar หนังกับความเชื่อที่จะสื่อถึงการกำเนิดของมนุษย์คนแรกบนโลก

admin No Comments

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ามนุษย์เรานั้นเกิดขึ้นมาจากอะไรกันแน่? ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์เองนั้นออกมากล่าวถึงทฤษฎีที่ว่า มนุษย์นั้นถูกวิวัฒนาการมาจากลิง นั้นเป็นเพราะได้ทำการค้นพบของชิ้นส่วนมนุษย์ยุคก่อนๆ ที่เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของลิงซิมแปนซีสายพันธุ์ที่คล้ายกับมนุษย์มากที่สุด ถึงสาเหตุนั้นเองที่ทำให้หลายคนต่างก็ก็ตั้งข้อสงสัยเพิ่มเข้าอีกว่าแล้วลิงที่ว่านั้นเกิดจากอะไร

ซึ่งเป็นสิ่งวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้เช่นกันว่า สิ่งมีชีวิตก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่วิวัฒนาการนั้นเกิดมาจากสิ่งใดกันแน่ แต่แล้วถ้าการเอาเรื่องความเชื่อเข้ามาอธิบายด้วยนั้นอาจจะพอเป็นไปได้ แม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ก็ได้ คุณเคยดูหนังเรื่อง Interstellar หรือไม่ ต้องขอเท้าความเรื่องย่อสักหน่อยว่า โลกของนั้นกำลังเกิดภัยพิบัติขั้นรุนแรง องค์กรลับจึงทำการสร้างยานอวกาศเพื่อออกไปสำรวจหาดาวโลกดวงใหม่เพื่ออพยพ และก็เกิดเรื่องมากที่ทำให้เพื่อนักบินต้องเสียชีวิตลงในการเดินทางไปสำรวจดาวต่างๆ

เหลือเพียงแต่ คูเปอร์ และ ดร.แบรนด์ แค่สองคนเท่าที่อยู่รอดมาได้ และกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วก็สามารถหาดาวโลกที่เหมือนกับโลกได้อย่างสำเร็จ ซึ่งหากนำตอบจบของหนังเรื่องนี้มาวิเคราะห์ตามความเชื่อทางศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ที่ได้มีการบันทึกไว้ว่า มนุษย์คนแรกของโลกนั้นคือ อดัม กับ อีฟ ที่เปรียบได้ว่า คูเปอร์ คือ อดัม และ อีฟ คือ ดร.แบรนด์ มันอาจจะดูฟังเหลือเชื่อไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่มีคนสันนิฐานว่า ในความจริงแล้วมนุษย์ได้ถือกำเนิดจากดาวโลกดวงอื่นที่อยู่ห่างออกแสนไกล

แต่เพราะว่าดาวโลกดวงนั้นเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงต้องส่งมนุษย์ออกตามหาดาวที่มีความคล้ายกับโลกใบเดิมจนเจอ และผู้ที่ค้นพบดาวโลกดวงใหม่ก็คือ อดัม และ อีฟ จึงได้ทำการส่งข้อมูลต่างๆกลับไปยังโลกดวงเดิม เพื่อเตรียมอพยพผู้คนที่รอดชีวิตมายังดาวโลกใบดวงใหม่ แยกย้ายไปตามแผ่นดินต่างๆ เพื่อสร้างอารยะธรรมของตนเอง จึงมีความเชื่อที่ว่ามนุษย์กลุ่มแรกที่เกิดขึ้นบนโลกก็คือมนุษย์ต่างดาวที่ใครๆก็ต่างเรียกมันว่าอย่างนั้น ถึงแม้ในจินตนาการมนุษย์ต่างดาวจะมีรูปร่างแปลงออกไปก็ตาม

แต่ถ้าหากจะหาสาเหตุย้อนกลับไปแล้วในโลกเดิมมนุษย์เกิดมาจากอะไรนั้น ก็คงจะไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ถึงอย่างไรแล้วแนวคิดนี้ก็ยังถือว่าเป็นการเอาความเชื่อเข้ามาเชื่อมโยงอยู่ ซึ่งผิดหลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่ตอบได้หรอกว่าวิทยาศาสตร์จะสามารถตอบคำถามทุกอย่าง เพราะบางอย่างนั้นอาจจะเกินความเชื่อของวิทยาศาสตร์ก็เป็นได้ และถ้าหากใครยังไม่ได้ไปหนังเรื่องแล้วละก็ได้ อย่างจะลองให้คุณได้ไป เป็นวิทยาศาสตร์ที่ครบรสรวมถึงได้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   sa gaming สมัครยังไง

ย้ายไปอยู่ดาวโลกดวงอื่นในจักรวาล

admin No Comments

คุณเคยได้ยินข่าวที่ว่า มนุษย์กำลังค้นหาดาวที่เหมือนโลก อยู่หรือไม่? เชื่อเถอะว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินหรือได้เห็นข่าวนี้ผ่านหูผ่านตาอย่างแน่นอน คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมมนุษย์เราต้องทำการค้นหาดาวที่เหมือนโลก ซึ่งได้มีการถกเถียงกันมากมาย ว่าจะแบ่งประชาชนกรไปอยู่ดาวโลกดวงใหม่ เพราะว่ามนุษย์นั้นเริ่มมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น

จนกระหายทรัพยากร และเกรงว่าทรัพยากรจะไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในทุกๆรอบปี แต่ก็มีผู้ที่ออกถกเถียงในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า การที่มนุษย์ต้องหาดาวโลกดวงใหม่นั้นเป็นเพราะต้องอพยพประชากรทุกคนไปอยู่ เพื่อสร้างรากฐานและดำรงเผาพันธุ์ต่อไป ต้องย้ำเลยว่าเป็นการอพยพทั้งหมด

เพราะเหตุใด ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของข้อถกเถียงนี้จะแตกต่างกัน แต่มีสาเหตุและปัจจัยที่เหมือนกันก็คือ ทรัพยากรไม่เพียงพอ และถูกต้องเลยที่ว่า ประชากรบนโลกเพิ่มมากขึ้นทุกๆรอบปี จะทำให้ทรัพยากรอย่างอาหารหรือส่วนประกอบที่ใช้นำมาผลิตยารักษาโรคนั้นไม่เพียงต่อความต้องการ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วแปลว่า ในอนาคตถ้าหากว่าโลกบนวาระหรือหมดอายุของมันแล้วละก็ โลกจะดับสูญทุกระบบ ทำให้มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าจะได้มีการคำนวณออกมาแล้วว่ากว่าโลกจะดับนั้นก็อีกตั้ง 7,000 ล้านปีเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าตัวเลขจะเป็นระยะที่อีกนาน แต่ถือว่ามนุษย์นั้นมีความรอบคอบที่จะเตรียมการไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ยังไม่สามารถทำการพิสูจน์และอยู่ในขั้นตอนของการพิสูจน์ เพราะฉะนั้นแล้วการเตรียมการอีกหนึ่งวิธีที่ดีก็คือการที่มนุษย์ส่งยานอวกาศออกไปสำรวจจักรวาล

เพื่อหาดาวที่เหมือนโลก ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านได้ค้นพบดาวที่เหมือนโลกกับโลกอยู่หลากหลาย แต่ก็ยังถือว่าไม่สามารถที่จะนำมนุษย์นั้นไปอาศัยอยู่ได้ เพราะดาวบางดวงนั้นมีอุณหภูมิที่ร้อนมากเกิดไป หรือหนาวมากเกินไปจนมนุษย์นั้นไม่สามารถอยู่ได้ หรือดาวบางดวงก็มีแต่น้ำแข็ง บางดวงมีน้ำและพื้นดินเหมือนกับโลกแต่สภาพอากาศนั้นอยู่ไม่ได้เพราะไม่มีออกซิเจน

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่แย่ที่ได้สำรวจพบดาวเหล่านี้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องคอยเฝ้าสังเกตการณ์ต่อไป ถ้าหากเวลาผ่านไปดาวเหล่านั้นอาจจะแปลเปลี่ยนทรัพยากรให้มนุษย์อาศัยอยู่ได้ เช่นเดียวกับโลกของเราที่นักวิทยาศาสตร์ตั้งทฤษฎีว่า แต่เดิมโลกเราเองนั้นก็เต็มไปด้วยอากาศที่เป็นพิษเช่นเดียวกัน ไม่มีพื้นน้ำ มีแต่ลาวา และในต่อมาหลายล้านปีโลกก็เปลี่ยนเป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้

โลกดวงใหม่ก็เช่นเดียวกันถึงแม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลานานอย่างไรแล้วก็ต้องสำรวจต่อไปเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ให้สืบเนื่องต่อไป

 

สนับสนุนโดย   www.ufa168.co ลิงค์เข้าใช้งานค่ะ

มนุษย์ต่างดาวพูดถึงการเกิดจักรวาล

admin No Comments

คุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือไม่? ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นยังไม่มีสิ่งที่มายืนยันได้ว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ เพราะในทางของวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ได้ออกมาสรุปข้อมูลเท็จจริงแต่อย่างไหน สิ่งที่เราเรียกว่ามนุษย์ต่างดาว และ จานบิน นั้นเกิดมาจากจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบนิยาหรือไม่ก็ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์

รวมไปถึงแหล่งที่มาของภาพถ่ายจริงหรือคลิปวิดีโอที่มีสามารถกดถ่ายบันทึกภาพเหล่านั้นได้ทัน ก็คือภายถ่ายวัตถุที่มีรูปทรงแปลกประหลาดบินอยู่เหนือน่านฟ้าคล้ายกับเครื่องบิน ที่ใครหลายๆคนตั้งชื่อให้มันว่า จานบิน พูดถึงคลิปวิดีโอแล้วจะเห็นแค่ว่าเป็นแค่วัตถุบางอย่างลอยอยู่ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ทำให้คลิปวิดีโอเหล่านั้นถูกมองว่าเป็นของปลอม สามารถที่จะทำการตัดต่อได้ แต่จะมีชุดคลิปวิดีโออยู่ชุดหนึ่งที่ไม่ผ่านการตัดต่อหรือใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีเข้าช่วย เป็นการทึกคลิปวิดีโอด้วยฟิล์ม ซึ่งคลิปนี้ถูกแอบอ้างว่าเป็นคลิปวิดีโอการสอบปากคำมนุษย์ต่างดาวอย่างลับ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ.1964 โดยฐานลับสุดยอดของอเมริกา หรือในอีกชื่อที่ถูกเรียกกันอย่างหนาหูว่า แอเรีย 51 ซึ่งในคลิปเหล่านี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำมนุษย์ต่างดาวที่จับกุมไว้ได้หลายคำถามมากมาย แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงชุดคำถามที่เกี่ยวกับจักรวาล

หนึ่งในคำถามก่อนหน้านี้ได้ถามมนุษย์ต่างดาวไปแล้วว่าพวกเขานั้นมาจากไหน? ซึ่งคำตอบของมนุษย์ต่างดาวก็คือ พวกเราคือพวกคุณ สายพันธุ์ของมนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลง และพวกเราเดินทางมาจากอนาคต อาจจะเป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่าพวกเขาทราบเรื่องจักรวาลได้อย่างไร?

ถ้าพวกเขาคือมนุษย์และอาศัยอยู่บนโลกนี้มาตลอด สิ่งมนุษย์ต่างดาวได้บอกต่อก็คือ ในอนาคตคนเทคโนโลยีจะพัฒนาหลายเท่า และสามารถออกไปสำรวจจักรวาลได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ได้ถามต่อว่า จักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบคือ จักรวาลไม่ได้เกิดขึ้นมา แต่มันมีอยู่แล้ว ซึ่งคำตอบอาจจะฟังดูไม่เข้าทำให้ถามกลับไปอีกว่า แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่อะไรจะเกิดขึ้นจากการไม่มีอะไรเลย? และคำตอบของมนุษย์ต่างก็ยิ่งทำให้หลายคนสงสัยเข้าไปอีกนั้นคือ ใช่ มันดูย้อนแยงกันอย่างบอกไม่ถูก

และมนุษย์ต่างดาวได้บอกอีกว่า จักรวาลที่ระยะทางที่เป็นอนันต์ คุณไม่อาจเข้าใจการเป็นอยู่ของจักรวาลได้ คำตอบของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ถือว่าเป็นปริศนาอยู่มากและยากต่อการจะหาคำตอบ แต่ถึงอย่างไรแล้วนี่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครสามารถออกยืนยันได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์และคนทั่วไปมีแนวคิดเดียวกันคือ ความเชื่อที่ว่าในเมื่อจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ไม่ใช่แค่โลกเราเท่านั้นที่มีสิ่งมีชีวิต แต่อาจจะมีดาวดวงอื่นที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เช่นเดียวกัน และอาจจะค้นพบในอนาคตก็เป็นได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    บาคาร่าบิกินี่

มนุษย์ต่างดาวใช้งานสมอง100% แล้วถ้ามนุษย์โลกทำได้บ้างจะเป็นอย่างไร

admin No Comments

เรื่องของมนุษย์ต่างดาวถูกพูดถึงมาทุกยุคทุกสมัย และในแต่ละความเชื่อที่มีให้มนุษย์ต่างดาวนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป บอกว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีรูปร่างประหลาด ผอมแห้ง ตัวสีเทา ตาโต หัวใหญ่ แต่บางคนก็บอกว่ามนุษย์ต่างก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ทุกอย่าง จนมีแนวความคิดที่ว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีหลากหลายเผ่าพันธุ์

และมาจากดวงดาวที่ต่างกัน แต่ในความเชื่อและแนวคิดต่างๆนี้ มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนคิดเห็นไปในทางเดียวกันนั้นก็คือ มนุษย์ต่างดาวสามารถส่งกระแสจิตความคิดได้ โดยไม่ต้องพูด สาเหตุนี้เชื่อมโยงมาจากการทดลองหนึ่งของมนุษย์เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งมีนักวิจัยได้ทำการวิจัยสมองของมนุษย์แล้วพบว่า มนุษย์มีการใช้งานสมองเพียงแค่ 2-4% เท่านั้น แม้แต่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ยังสมองไปเพียงแค่ 3-5% จึงได้ทำการทดลองนำมนุษย์มาเร่งสมองให้ทำงานถึง100%ด้วยกระแสไฟฟ้า ในบางคนเร่งสมองถึง 40% ก็เสียชีวิต แต่ในบางคนถูกเร่งถึง 80% ก็เสียชีวิต

แต่ก่อนจะเสียชีวิตพวกเขาถูกให้เขียนข้อความบางอย่างลงในกระดาษและเก็บเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ช่วงทำการทดลองเร่งสมองให้เขาส่งความคิดที่เขาเขียนลงในกระดาษให้กับคนทั่วไปก่อนจะเสียชีวิตลง บุคคลผู้นั้นได้ให้คำตอบกับสิ่งที่ผู้ทดลองส่งมาถึง ซึ่งตรงกับสิ่งที่ผู้ทดลองได้เขียนลงกระดาษ จึงทำให้การทดลองครั้งนี้ทราบคำตอบว่า ถ้าหากมนุษย์ถูกเร่งสมองให้ใช้งานได้100% มนุษย์จะสามารถสื่อสารทางจิตได้

โดยไม่ต้องพูด และความเชื่อที่ว่ามนุษย์ต่างสามารถสื่อสารกันทางจิต นั้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน นั้นก็แปลว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง โลกของพวกเขาจะต้องมีเทคโนโลยีและวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าเป็นอย่างมากแน่นอน เช่นเดียวกันถ้าหากมนุษย์โลกของเรามีการใช้งานสมองถึง100% เราอาจจะสามารถสื่อสารกันทางจิตได้ ทั้งยังจะทำให้เป็นผู้เฉลียวฉลาดอัจฉริยะ และเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์บนโลกมนุษย์ก็จะก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันซึ่งไม่สามารถเป็นไปได้หรือเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน

เพราะตอนนี้มนุษย์มีการใช้สมองเฉลี่ยแค่ 2-4% เท่านั้นเอง เพราะการที่เราใช้งานสมองหนักมาเกินไปผลที่ตามอย่างที่เห็นกันได้ชัดคือ เราจะมีอาการปวดหัว เครียดจนบางทีลงกระเพาะ ส่งผลให้ปวดท้อง นี่คือสาเหตุที่ว่าถ้าเราใช้งานสมองหนัก ไม่เพียงแค่สมองที่ได้รับผลกระทบ แต่รวมไปถึงระบบการทำงานต่างๆของร่างกายอีด้วย และในอนาคตเองวิทยาการทางวิทยาศาสตร์เราอาจจะสามารถหาคำตอบได้ว่าจะทำอย่างไรให้สมองถูกใช้งานเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายก็อาจเป็นไปได้

 

สนับสนุนโดย  ae sexy

ความข้องใจในการเดินทางข้ามเวลาไปแก้ไขสิ่งต่างๆ

admin No Comments

คุณคงเคยเห็นในภาพยนตร์หลายๆเรื่องที่นำเอาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาเป็นส่วนหนึ่งของบทประพันธ์ รวมถึงการ์ตูนชื่อดังที่เด็กๆต่างก็นึกถึงถ้าหากพูดในเรื่องของกการเดินทางข้ามเวลา ไม่ว่าจะเดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคตหรือเดินทางข้ามเวลากลับไปยังอดีต ก็คงไม่มีใครไม่นึกถึงการ์ตูนชื่อดังมาๆอย่าง โดเรม่อน แน่นอน

ซึ่งการเดินทางในการ์ตูนเรื่องนี้นั้นได้ทำการเดินทางโดยอาศัย ไทม์แมชชีน ที่เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนและมีระบบข้อมูลในการเดินทางท่องเวลาได้ ในความเป็นจริงแล้วนั้นเราไม่อาจทราบได้เลยว่าอะไรคือสิ่งที่จะสามารถนำพาเราเดินทางข้ามเวลา แต่หากถามว่าเราจะสามารถเดินทางข้ามเวลาไปได้หรือไม่ นั้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ไม่มากก็น้อย

เพราะถือว่าในการ์ตูนหรือภาพยนตร์นั้น ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นั้นได้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบียดของเวลา แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้แต่อย่างใด แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆคุณจะทำอย่างไร คุณคงอยากจะเดินทางย้อนเวลาไปยังอดีตเพื่อแก้ไขอะไรบางอย่าง หรือ เดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคตเพื่อดูตัวคุณในวันข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรใช่หรือไม่

แล้วมันจะเป็นไปได้จริงๆหรือถ้าหากคุณทำการแก้ไขมันทั้งๆที่มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว อธิบายมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะดูไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเราลองมายกตัวอย่าง ถ้าหากคุณต้องการย้อนเวลาไปอดีตก่อนที่คุณหรือแม่ของคุณจะเกิด เพื่อไปฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง แต่พบว่าผู้หญิงคนนั้นคือ ยายของคุณเอง แล้วในโลกปัจจุบันคุณจะได้เกิดหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องได้เกิด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะได้เดินทางย้อนเวลากลับมาฆ่าอยู่อย่างนี้หรือ แต่ก็แปลกนะถ้าฆ่ายายตัวเองตายแล้ว

แม่เขาจะได้เกิดเหรอ แล้วถ้าไม่มีแม่ ตัวเขาจะได้เกิดเหรอ แต่คนที่ฆ่ายายก็คือตัวเขาที่ย้อนเวลามานะ นั้นสิ มันเป็นเพราะอะไร หรือในเรื่องของการเดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคต เมื่อคุณต้องการเห็นอนาคตของตนเองว่าเป็นไร แล้วพบว่าตัวคุณนั้นป่วยเป็นโรคร้ายต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรคพยาบาล คุณเลยกลับมาปัจจุบันเพื่อแก้ไขไม่ให้ตัวเองเป็นโรคเหล่านั้น

แต่เราจะสามารถแก้ไขอนาคตได้จริงหรือ ในเมื่ออนาคตที่เราได้เดินทางไปดูนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว นั้นก็เท่ากับว่ามันจะต้องเกิดขึ้นไม่ว่าคุณจะกลับแก้ไขมันอย่างไรก็ตาม สรุปแล้วการเดินทางข้ามเวลาเพื่อแก้ไขเหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่นั้นก็ไม่สามารถมีใครคำตอบได้เช่นกัน ซึ่งหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถเดินทางข้ามเวลาได้

 

สนับสนุนโดย  ae sexy

นายดาบปราบเส้น ดาบตำรวจ ตฤณธัช เทียมทอง

admin No Comments

          ดาบตำรวจ ตฤณธัช เทียมทอง ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ลาดบัวหลวง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ดาบตูน คือผู้ที่ถอดเครื่องแบบตำรวจแล้วมาคอยนวดแผนไทยและนวดแก้อาการต่างๆให้กับชาวบ้านทุกครั้งที่ว่างจากการประจำในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดาบตูนจะใช้เวลาว่างจากงานประจำฝึกแล้วไปฝึกฝนการนวดหลังแถมดาบตูนจิตอาสาท่านนี้ยังได้รับการสอนจากคนเฒ่าคนแก่จนเก่งสามารถที่จะบำบัดอาการป่วยของตัวเองได้

ต่อมาดาบตูนจึงได้เข้าเรียนอย่างจริงจังจากสมาคมแพทย์แผนไทย หลักสูตรนวดแผนไทยและนวดแก้อาการ เพื่อนำมานวดให้เพื่อนร่วมงานจนได้รับคำชื่นชม นายดาบตำรวจท่านนี้นับเป็นหมอนวดที่ผ่านการร่ำเรียนศาสตร์ทางการนวดจับเส้นมาจากผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมถ่ายทอดสืบต่อกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณจึงทำให้มีความรอบรู้และสามารถวินิจฉัยถึงอาการต่างๆของผู้ป่วยที่เข้ามารับการบำบัดรักษาอาการเจ็บปวดตามร่างกายด้วยการนวดได้อย่างแม่นยำ 

      เขาได้กล่าวยืนยันถึงความเชี่ยวชาญในศาสตร์การนวดในสาขาตามที่ได้ร่ำเรียนมาของตนเองว่า การนวดจับเส้นเพื่อรักษาอาการต่างๆนั้นไม่ใช่ใครๆก็ทำได้ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้นจึงจะรู้ว่าอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยนั้นน่าจะเกิดจากอะไรที่เป็นสาเหตุ บางกรณีอาจเกิดความผิดปกติของกระดูกเราก็จะแนะนำในเรื่องเกี่ยวกับกระดูก

บางรายเป็นเพราะกล้ามเนื้อ บางรายเป็นเพราะเส้นประสาทหรือเส้นเอ็นที่มีอยู่มากมายตามร่างกายเมื่อเราสัมผัสกับผู้ป่วยก็จะสามารถแยกแยะได้ว่าสาเหตุของอาการเจ็บปวดนั้นมาจากอะไร หากเราสามารถวินิจฉัยถึงสาเหตุได้การแก้ไขอาการก็จะทำได้ง่ายขึ้นและเราจะไม่แก้อาการแบบเดาสุ่มสะเปะสะปะเพราะนั่นจะทำให้อาการรักสาไม่บรรลุผล 

      ดาบตูนกล่าวถึงขั้นตอนในการให้บริการการนวดเพื่อแก้ไขอาการเจ็บปวดตามร่างกายของผู้ป่วยซึ่งประสบการณ์จากการร่ำเรียนมาหลายตำราของเขาทำให้สามารถแยกแยะได้ว่าอาการต่างๆของผู้ป่วยแต่ละคนนั้นเกิดจากภาวะใดสำหรับดับตูนท่านนี้แม้หน้าที่หลักในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของเขาคือ สายตรวจ ค่อยออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนความเรียบร้อยของชาวบ้านแต่ด้วยความสามารถพิเศษเรื่องการนวดทำให้เขากลายเป็นที่พึ่งของชาวบ้านที่กำลังเจ็บป่วยให้หายไปโดยปริยาย