19
พ.ย.
2020
ทางช้างเผือก นั้นแน่นอนว่าหลายๆ คน แค่จะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว จากหนังดังเรื่องหนึ่ง แน่วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดเกี่ยวกับ เรื่องของหนังหรือว่าอะไรหรอกนะ แต่วันนี้เราจะพูดเกี่ยวกับ เรื่องของจักรวาร ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน แย่างที่บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจักรวารนั้นมีมากมาย
จนเราไม่สามารถ ที่จะนำมาพูดในวันเดียวแล้วจบ ซึ่งบางเรื่องถ้าหากว่าพูดไปแล้วมีคนไม่เข้าใจก็จะต้องใช้เวลาในการอธิบายพอสมควร แต่เรื่องราวเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากและไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้เลย
ในวันนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับดาวห่างดวงหนึ่ง ที่น้อยคนนักจะเคยได้ยิน นั้นก็คือดาวหางใหญ่ปี 1264 ดาวหางดวงนี้ได้ปรากฏบนท้องฟ้า ระหว่างเดือนกรกฎาคมและตุลาคมปี 1264 มันสามารถที่จะมองเห็นได้ตลอดทั้งวัน แต่จะสามารถงมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงเช้าตรู่ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ซึ่งมันได้โคจรมาถึง ในช่วงเวลาที่ดาวหางถูกมองว่าเป็นลางร้าย
ในส่วนความเชื่อของลางร้ายนั้นได้รับการส่งเสริมให้มีความเชื่อมากขึ้นเมื่อ Pope Urban IV ได้เกิดการล้มป่วย ในเวลาที่ดาวหวงที่ว่านี้ปรากฏตัวขึ้นคั้งแรก จนกระPope Urban IV ได้เสียชีวิตลง ในวันที่สาม ตุลาคม ปี 1264 ซึ่งวัวหางที่ว่านี้ถูกพบ
และนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่ดาวหางที่ว่านี้ถูกพบ และนั้นก็เป็นเหตุที่ทำให้ชาวโลกเชื่อกันว่าดาวหางได้เอาชีวิตของ Pope Urban IV ไปเสียแล้ว จนกระทั้งที่ในเวลาต่อมาดาวหางที่มีความสว่างคล้ายๆ กัน ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับ ในปี 1556 และมันก็ได้ถูกเรียกว่าดาวห่างใหญ่ปี 1556
จนกระทั้งในปี 1778 Alexandre Guy Pingre นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศษ เขาได้อ้างว่าดาวห่างใหญ่ ปี1264 นั้นเป็นดาวหางดวงเดียวกันกับดาวหางใหญ่ปี 1556 โดยที่เขาได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าดาวหางใหญ่ดวงนี้นั้น จะกลับมาปรากฏให้เราได้เห็นกันในทุกๆ 292 ปี และได้มีการคาดการณ์เอาไว้อีกว่ามันจะกลับมาอีกครั้ง ในปี 1848
แต่ถ้าว่าดาวหางใหญ่ ดวงนี้ก็ไม่ได้กลับมา และถ้าหากว่าเรายึดตามการคำนาณของนักดาราศาสตร์ที่ว่านี้ ดาวหางใหญ่ดวงนี้คงจะกลับมาอีกครั้ง ในปี2140 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าว่าสิ่งที่เราได้กล่าวไปนั้นจะเกิดขึ้นจริงๆ
สุดท้ายนี้เรื่องราวที่เกี่ยวกับดาวหางที่หายไป และกลับมาปรากฏให้เราได้เห็นอีกนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ดวงนี้เพียงดวงเดียว แต่มันยังมีอีกมากมาย จนเราไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้เลย และเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกเอามากๆ เลยก็ว่าได้
ได้รับการสนับสนุนโดย gclub ฟรี 100
13
พ.ย.
2020
จักรวารนั้นกว้างใหญ่กว่าที่เราคิด มันมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายโดยที่เราเองไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน จักรวารที่กว้างใหญ่ซ้อนเอาดวงดาวต่างๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งเรื่องนี้น้อยคนนักที่จะรู้ และหลายๆ คนอาจจะคิดว่าระบบสุริยะที่โลกของเราอาศัยอยู่ และมีดวงอาทิตย์เป็นฤกษ์ที่ค่อยมอบแสงสว่างให้กับดาวบริวารต่างๆ ของมัน เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุด
บอกได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริงอย่างมาก เพราะนอกจากระบบสุริยะแล้ว ยังมีระบบต่างๆ อีกมากมายที่อยู่ในกาแล็กซี่ที่มีว่าทางช้างเผือก ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่าระบบสุริยะของเรา และสิ่งที่ใหญ่กว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือก และมันยังได้รวมเอากาแล็กซี่ต่างๆ ไว้ด้วยกันนั้นก็คือ จักรวารนั้นเอง
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วข้างต้นว่ามีจักรวารนั้นกว้างใหญ่เอามากๆ และมันยังได้ซ้อนเอาความลับต่างๆ เอาไว้มากมายอีกด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการค้นพบเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในจักรวาร แต่นั้น ก็คงยังไม่ใช่ทั้งหมดของมันอย่างแน่นอน ในวันนี้เราจะมีทำความรู้จักเกี่ยวกับดาวดวงหนึ่งที่มีชื่อว่า Thoren Zytkow Odiect ดาวดวงนี้จะเรียกได้ว่าเป็นดาวสอดใส่ดาวอีกทีหนึ่งก็ว่าได้ ตามทฤษฏีแล้วนั้น
ดาวดวงนี้เกิดจากการที่ดาวยักษ์แดงดึงดูดเอาดาวนิวตรอนขนาดเล็กที่ตายแล้ว เข้าไปโคจรอยู่ใจกลางของดวงดาวใหญ่จนดูเหมือนกับว่ามันเป็นลูกอมสอดใส่ ดาวกดวงนี้ถูกพบอยู่ในเมฆแมกเจลแลนเล็ก ส่องสว่างเจิดจ้า มีมวลมาก และมีขนาดที่ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์องเรา 200-2,000 เท่า
หลังจากที่ดาวยักษ์แดงได้ดูดเอาดาวนิวตรอนดวงนี้เข้าไปแล้ว สว่นแกนด้านในจะทำปฏิกิริยาฟิวชั่น เปลี่ยนอะตอมไฮโดรเจนให้กลายเป็นฮีเลียม จากฮีเลียมไปเป็นธาจุอื่นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันกลายเป็นเหล็ก บนดาวยักษ์แดงก็จะมีการขยายตัวที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น และ ดาวนิวตรอนที่เป็นแกนกลางของมันก็จะถูกก่อตัวหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงขีดจำกัดของมันเอง และกลายสภาพมาเป็นหลุมดำ ก่อนจะระเบิดออกกลายเป็นซูปเปอร์โนวาขนาดยักษ์ และคงเหลือทิ้งไว้แต่ดาวชั้นนอกเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เราได้กล่าวไปนั้นมีไม่บ่อยครั้งนักที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ถือว่าการค้นพบในครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อเอามากๆ แต่ต่อให้จะไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วและ เพราะมันมีหลักฐานที่จะมายืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่การแต่งเรื่องแต่อย่างไรแน่นอน
สนับสนุนโดย www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ
5
พ.ย.
2020
ท้องฟ้าที่แสนจะกว้างใหญ่นั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น บางสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเรารู้ว่ามันคืออะไร แต่บางสิ่งมันก็เป็นเรื่องที่แปลกใหม่เกิดไป ในส่วนของการศึกษาเกี่ยวกับอวกาศและจักรวารนั้นจะว่าเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากก็ไม่ใช่เลยทีเดียว เพราะถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากเราคงจะไม่ได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาวเป็นแน่แท้
และสิ่งที่ทำให้มันเป็นเรื่อง ที่เข้าถึงยากนั้นก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไรนัก เพราะคิดว่ามันไม่ได้มีส่วนอะไรกับชีวิตของเรา
ถ้าหากจะพูดว่าเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ บนท้องฟ้านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวอะไรกับชีวิตของเราเลย ก็ไม่ใช่ เพราะอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เราไม่ได้คิดแบบนั้น บนอวกาศนั้นมีเรื่องราวต่าง ๆมากมายที่ดูจะแปลกประหลาดไปหมด และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าทึ่งเอามาก ๆ จากการที่ได้มีการส่องกล้างโทรทัศ เรานั้นได้เห็นสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าเนบิวลา และเนบิวลาที่ว่านี้ลักษณะของมันคล้ายกับตาแมวเอามาก ๆ เลย
ซึ่งมันจะล้อมรอบด้วยวงแหวนที่มากถึง 11 ชั้นกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากว่าเรานั้นมองผ่านๆ ก็ดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่ต่างออกไปจากเนบิวลอื่นๆ เลยแต่สิ่งที่ต้องทำให้นักดาราศาสตร์ต้องกลับมามองให้ชัดเจนอีกครั้งนั้นก็คือดวงตาลึกลับที่อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของมัน พวกเขาได้มีการคาดการณ์ว่ามันน่าจะเป็นดาวฤกษ์ที่กำลังจะกลายเป็นดาวแคระขาวในเวลาอีกไม่ช้า
มีมวลที่มากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 5 เท่า มีแสงที่สว่างมากว่าหนึ่งหมื่นเท่า เราจึงต้องมีการศึกษาด้วยเครื่องมือททางวิทยาศาสตร์ชนิดหนึ่ง และได้มีการตรวจสอบสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมันต่างจากเนบิวลาอื่นๆ ที่เราเคยได้มีการค้นพบมา
นอกจากนี้โครงสร้างที่ทับซ้อนกันของมัน พวกเขาคาดว่ามันอาจจะเกิดจากการผลักวัตถุออกจากศูนย์กลางก็เป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตามข้อสันนิษฐานนี้ ก็ยังไม่ได้รับการฟันธงว่าจริงเท็จยังไงอยู่ดี นี้สินะ ที่เขาเรียกกันว่าสวยแต่ลึกลับที่แท้จริง เนบิวลานั้นมีอยู่ทั่วไปในจักรวารแห่งนี้ ซึ่งเนบิวลาแต่อันนั้นก็มีความแตกต่างกันไปแล้ว
แต่ลักษณะของการเกิด และที่อยู่ของมัน มีหลายสิ่งหลายที่เกิดขึ้นในจักรวารแห่งนี้ซึ่งน้อยคนนักที่จะสนใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มีหลายการค้นพบที่ได้มีการออกมาเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะแต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะคนที่สนใจนั้นส่วนมากก็จะเป็นคนในกลุ่มแวดวงเดียวกันถึงจะสนใจ และมองเห็นถึงคุณค่าของมัน
ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย บาคาร่าอันดับ
30
ต.ค.
2020
อย่างที่เราเองก็รู้ๆ กันดีว่าโลกของเรานี้ไม่ได้อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในอวกาศแห่งนี้ เพราะนอกจากโลก ดวงจันทร์ และก็ดวงอาทิตย์แล้ว มันยังมีดาวเคราะห์อีกมากมายหลายดวง โดยที่บางทีเราเองก็ไม่รู้ หลายคนอาจจะรู้ว่าโลกของเรานี้อยู่ในระบบสุริยะ แล้วในระบบสุริยะที่ว่านี้ยังมีดาวเคราะห์อีกมากมายแถมดาวเคราะห์แต่ละดวงยังมีดวงจันทร์บริวารอีกด้วย และบางดวงก็มีดวงจันทร์บริวารมากกว่าสิบดวงด้วย ซ้ำไป แล้วระบบสุริยะที่ว่านี้มันรวมเอาดวงดาวต่าง ๆไว้มากมาย แสดงว่ามันก็เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดสิ
อย่างที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้นว่าโลกของเรานี้นั้นอาศัยอยู่ในระบบสุริยะ และยังมีดาวเคราะห์อีกมากมายอาศัยอยู่อีกด้วยด้วย แต่เชื่อไหมว่าระบบสุริยะที่ว่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุด เพราะสิ่งที่ใหญ่กว่าระบบสุริยะก็คือ กาแล็กซี่นั้นเอง สำหรับระบบสุริยะของเรานี้มันอาศัยอยู่ในกาแล็กซี่หนึ่งที่มีชื่อว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือก แล้วนอกจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือกละในอวกาศมีกาแล็กซี่อื่นอีกไหม
แน่นอนว่ามี และในวันนี้เราจะมาพูดถึงกาแล็กซี่หนึ่งที่มีชื่อว่า กาแล็กซี่ผี ดีจีเอสเอที 1 เมื่อได้ยินชื่อของมันแล้วอาจจะดูขนหัวลุกใช่ไหมละ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่คิดแน่นอน และก็ไม่ได้มีวิญาณมาทักทายเราอย่างแน่นอน เพียงแค่การมีอยู่ของมันมีความลึกลับซับซ้อนมากกว่าที่เราคิดเท่านั้น
สำหรับกาแล็กซี่ผีแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 2019 มันจัดได้ว่ามีขนาดใหญ่ไม่ได้ต่างจากเพื่อนๆ ของมันเลยแต่ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมที่นี้ถึงดูเลือนลางมาก หน้าตาของมันแถบจะไม่เปลี่ยนและอญุ่อย่างโดดเดี่ยวไม่ข้องเกี่ยวกับใครเลย ปริศนาชิ้นใหญ่แบบนี้เล่นเอานักดาราศาสตร์ถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว และพวกเขาก็ได้แต่สันนิษฐานว่าที่มันเลือนลางแบบนี้ก็เพราะว่ามันมีองค์ประกอบทางเคมี
อย่างเช่นเหล็ก ที่เกิดหลังซูปเปอร์โนวาน้อยมาก ซึ่งดูแล้วมันแทบจะก่อตัวเป็นกาแล็กซี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่มันกลับมารวมกันเป็นกระจุกได้อย่างน่าประหลาดใจเอามากๆ อละยังมีแสงสว่างระยิบระยับของดวงดาวเหมือนกับกาแล็กซี่อื่นๆ อีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะดูเบาบางไปหน่อยก็ตาม และก็ไม่แน่อีกว่าในนั้นอาจจะมีพลังงานลึกลับบางอย่างซ้อนอยู่ก็เป็นไปได้ใครจะไปรู้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามกาแล็กซี่ผีที่เราได้กล่าวถึงนั้นไม่ใช่กาแล็กซี่แห่งเดียวที่มีความลึกลับอย่างแน่นอน เพราะกาแล็กซี่ที่ได้มีการค้นพบอีกมากมายหลายกาแล็กซี่ก็มีความลึกลับซับซ้อนที่แต่ต่างกันไป และคุณอย่างคิดว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรานั้นจะไม่มีความลับซ้อนอยู่ เพราะอะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สนับสนุนเรื่องราวโดย ีดฟิำะ
22
ต.ค.
2020
อย่างที่เรานั้นรู้ๆ กันดีว่าจักรวารแห่งนี้นั้นกว้างใหญ่มากแค่ไหน ต่อให้ในตอนนี้นั้นเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์จะมีการพัฒนาไปไกลมากแล้ว แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะออกสำรวจจักรวารได้ทั้งหมดอยู่ดี จักรวารกว้างใหญ่ซ้อนความลับต่างๆ ไว้มากมาย แน่นอนว่าในจักรวารแห่งนี้เน้นมีดวงดาวต่างๆ มากมายซ้อนตัวอยู่บางดวงเราสามารถค้นพบได้ แต่บางดวงกยังคงเป็นความลับอยู่อีกต่อไป
ปริศนาของดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่มีชื่อว่า kic 8462852 หรือจะเรียกออีกอย่างว่าดาวโบยาเจีย แน่นอนว่าจักรวารนี้กว้างใหญามันจะต้องมีดาวที่ซับซ้อน ซ้อนเอาไว้อยู่และดาวโบยาเจียนที่ว่านี้ก็เป็นอีกดวงหนึ่งเช่นเดียวกัน มันเป็นดวงที่ได้มีการถูกขนานนามว่าเป็นดาวที่มีความลึกลับมากที่สุดในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรา มันได้มีการไขกระจ่างแล้วว่า พบว่าดาวมีความสว่างขึ้นและมืดมัวลงสลับกันเป็นช่วงๆ
แบบที่เราไม่เคยพบในดวงดาวใดมาก่อน มันเกิดจากกลุ่มฝุ่นละอองที่ล้อมรอบดวงดาวเอาไว้ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของสิ่งมีชีวิตต่างดาวแต่อย่างใด ดาวโบยาเจียนที่ว่านี้อยู่ห่างจากโลกของเราออกไปราว 1,500 ปีแสง ในกลุ่มดาวหงส์ ซึ่งเป็นแถบที่สุกสว่างและสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดแถบหนึ่งของแขนดาราจักร
จากการที่ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับดาวดบยาเจียนที่ว่านี้ มีหลายคนที่เชื่อว่าการที่มันมีความสว่งเกิดขึ้นและมือลงนั้นเกิดจาการที่มนุษย์ต่างดาวได้สร้างเครื่องจักรขึ้นมาเพื่อที่จะเก็บเอาพลังงานมาใช้เพื่อที่จะติดต่อสื่อสารกับดาวดวงอื่น แต่นี้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่หลังจากที่ได้มีการศึกษาจึงพบว่าการที่ดาวโบยาเจียนที่มีความลึกลับ มีแสงสว่างและมืดลงั้นน่าจะเกิดจากการที่มีกลุ่มเมฆฝุ่นขนาดใหญ่ล้อมรอบ
มันอยู่ ดาวฤกษ์ที่มีชื่อว่าโบยาเจียนที่ว่านี้เป็นเพียงดาวเคราะห์ทั้งหมดในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกที่เราได้มีการค้นพบเพื่อที่จะยกมาพูดเท่านั้น ซึ่งยังมีดาวอีกหลายดวงที่เราค้นพบได้ไม่ได้นำมาพูด ที่ในวันนี้เราได้พูดถึงเรืื่องของดาวโบยาเจียนเพราะว่ามันเป็นดาวที่ความลึกลับและแปลกเอามากๆ เนื่องจากว่าแสงของมันนั้นมีการมืดลอง ซึ่งในการสังเกตแต่ละครั้ง ที่แสงของมันมืดลองความมืดที่ว่านี้ก็มีระดับที่แตกต่างกับไป ไม่ได้มืดลงเป็นเท่ากันตลอด
สุดท้ายนี้อย่างไรก็ตามการในการศึกษา หรือว่าในการค้นพบดวงดาวต่างๆ แต่ละครั้งนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเอามากๆ เพราะมันเป็นเครื่องที่สามารถยืนยันได้ว่ามนุษย์เรานั้นมีความสามารถมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามโบยาเจียนไม่ใช่ดาวดวงเดียวที่มีความน่าสนใจแต่ดาวดวงอื่นๆ ที่มีการค้นพบมากมายก็มีความน่าสนใจและน่าศึกษาไม่ได้ต่างกันเลย
ได้รับการสนับสนุนโดย เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1
14
ต.ค.
2020
สิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์ทุกชนิดนั้น สิ่งเหล่านี้นอกจากสิ่งภายนอก ที่ทำให้พวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว แต่นอกจากนี้ระบบภายในร่างกายของมันก็ต้องทำงานให้เป็นปกติอีกด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตเลยก็ว่าได้ อย่างที่เรานั้นรู้ๆ กันดีว่าร่างกายของคนเราหรือแม้แต่สัตว์เอง
ก็ต้องมีเลือดที่จะต้องไหลเวียน เพื่อไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเพราะถ้าหากว่าไม่มีเลือดที่ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้วละก็ อวัยวะต่างๆ ที่เหลืออยู่ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เพราะมันจะใช้งานไม่ได้
เรื่องที่เราจะได้กล่าวต่อไปนี้มันได้ตกเป็นเรื่องที่ อยู่ในนวนิยายขิงวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เรานั้นได้มีการสร้างแบบจำลองที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ในอวกาศ การศึกษาในปี 2007 พบว่า พลาสมาและฝุ่นที่เรานั้นคุ้นเคยกันดีนั้นได้สามารถทำงานในลักษณะที่อาจจะมีคุณสมบัติที่เหมือนกับสิ่งมีชีวิต พวกมันอาจจะสร้างเกลียวคู่แบบแข็งซึ่ง เป็นจุลภาพของอนุภาคของแข็ง Polarization ของพลาสมาแลฝุ่นละออง
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของแสง และที่น่าสนใจไปยิ่งกว่านั้น ก็คือการศึกษาได้พบว่าพลาสมาและฝุ่นละอองในอวกาศนั้นสามารถที่จะ เปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับโมเลกุลอินทรีย์ได้ เช่นเดียวกับ DNA พวกมันสามารถที่จะแบ่ง คัดลอก และแม้กระทั้งการพัฒนารวมไปถึงการวิวัฒนาการอีกด้วย
ซึ่งรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่เราได้มีการกล่าวมาเหล่านี้นั้น อาจจะมีอยู่ อยู่ในที่ที่หนาวเย็น ซึ่งจะเเกิดจากวัตถุที่ไม่ใช่อนินทรีย์ และมีชีวิตอยู่อยู่ในช่องว่างระหว่างดวงดาว โดยที่มันจะอาศัยอยู่ในเมฆฝุ่นขนาดใหญ่หรือพลามา และนั้นก็รวมไปถึงวงแหวงฝุ่นรอบๆ กับดาวฤกษ์ และจากการที่วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมัน มีความเป็นไปได้อย่างมาก
ที่เมฆฝุ่นและพลาสมาอวกาศเหล่านี้จะสามารถบรรลุไปถึงความสามารถที่มีความรู้สึกนึกคิดได้ แต่นี้ก็เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตซึ่งเราเองก็ไม่สามมารถที่จะทราบได้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน จะอีก100ปี 200ปี หรือว่ามันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ในตอนนี้สิ่งที่เรารู้ดีที่สุดก็คือในการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวัยก่อนที่จะถึงวันที่เาจะต้องได้จากลาโลกที่แสนจะวุ่นวายแห่งนี้ไปนั้น เราจะต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า มีความสุข
และสุดท้ายเราต้องรู้ความหมายของชีวิต และใช้ชีวิตให้มีความหมายมากที่สุด สุดท้ายนี้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอวกาศนั้นยังมีอีกหลายเรื่องที่เรานั้นไม่ได้กล่าวถึง เพราะมันรอที่จะให้พวกคุณออกไปตามหามันอยู่เสมอ
ได้ืรับการสนับสนุนโดย UFABET เว็บหลัก
8
ต.ค.
2020
อย่างที่เรานั้นก็รู้ๆ ดีว่าสิ่งต่างที่เกิดขึ้นมานั้น ล้วนแล้วแต่ที่จะมีต้นกำเนิดที่แตกต่างกัน หลายสิ่งหลายที่ได้มีการค้นพบและหาสาเหตุของการเกิดของมันได้ โลกของเราก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยว่า ในยุคแรกๆ ของโลกใบนี้นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร แล้วในยุคแรกเริ่มมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่หรือไม่ แน่นอนว่าหลายๆ คนคงจะเคยเกิดคำถามเหล่านี้ขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน ว่าโลกของเรานั้นมีจุเริ่มต้นและความเป็นมาอย่างไร
ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนขัดกับความน่าจะเป็น ที่หนึ่งในสารพิษที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกของเราชนิดหนึ่งอย่าง สารหนู กลับเป็นพื้นฐานในการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา แต่แล้ววิทยาศาสตร์ก็ได้แสดงให้เราได้เห็นแล้วว่า มีความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิง สำหรับสารหนูที่รวมอยู่ในชีวะโมเลกุลที่ค้อนข้างที่จะซับซ้อน อาร์กิวเมนต์ของสารหนู ในรูปแบบของชีวิตเกิดจากการคล้ายคลึงกันทางเคมีอย่างฟอสฟอรัส
ซึ่งมันเป็นส่วนประกอบหลักของ DNA ในสิ่งมีชีวิตบนโลกของเราอีกทั้งการศึกษาบางชิ้นยังได้มีการแสดงให้เราได้เหตุอีกด้วยว่าสารหนูนั้นอาจจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ในสิ่งมีชีวิตช่วงแรกเริ่มของโลก ซึ่งมาแทนที่ของ DNA ที่ฟอสฟอรัสทำอยู่ สำหรับในช่วงเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตก่อนที่จุลินทรีย์จะสามารถดูดซับฟอสฟอรัสจากหินในมหาสมุทร สารหนูนั้นจะมีความสำคัญมาก สำหรับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใกล้ช่องระบายความร้อนที่อยู่ใต้มหาสมุทร ถึงแม้ว่าหลักฐานจะแสดงให้เราได้เห็นว่าฟอสฟอรัสเป็นสารเคมี ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสารหนูสำหรับการเป็นองค์ประกอบในสิ่งมีชีวิตขั้นสูง
แต่ในส่วนขององค์ประกอบที่เป็นพิษนั้น ก็น่าจะดีพอสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่สร้างจากสารหนูนั้นอาจ จะกำลังแฝงตัวอยู่ใต้มหาสมุทรที่ลึก รวมไปสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่อาศัยอยู่ในบรรยายกาศของดาวเคราะห์นอกโลกของเรา ที่ไม่อำนวยต่อการดำรงชีพ อย่างไรก็ตามในเรื่องของสารที่เป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต
ที่ไม่ใช้คาร์บอนนั้นยังมีอยู่อีกมากมายที่เรายังไม่ได้มีการกล่าวถึง เพราะถ้าจะให้มานั่งพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงจะต้องใช้เวลาทั้งวันเลยก็ว่าได้ แต่เรื่องพวกนี้นั้นเราก็สามารถที่จะลองศึกษาผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็ได้ สุดท้ายนี้ในเรื่องของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นล้วนมีต้นกำเนิดทั้งนั้น ซึ่งแล้วแต่ว่า เราได้มีการศึกษามากน้อย
เพียงใด แต่เราต้องค้นคว้าหาคำตอบ เพื่อจะได้มีข้อสมมติฐาน ในการอ้างอิงสิ่งที่ค้นพบ และนำไปกล่าวอ้าง เพื่อเป็นข้อมูล สารสนเทศ ในการตอบคำถาม นักวิทยาศาสตร์ด้วยกัน ว่า สิ่งมีชีวิตที่มีสารหนู เป็นองค์ประกอบพื้นฐานนั่น สำคัญกว่า องค์ประกอบอื่น ๆ
สนับสนุนเรื่องราวโดย gclub ทดลองเล่น
1
ต.ค.
2020
หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นมานั้น ไม่ว่าจะอยู่นอกโลกหรือแม้แต่บนโลกของเราเองก็ตามที บางเรื่องเราสามารถค้นพบมันได้และสามารถที่จะหาคำมาอธิบายได้ว่ามันคืออะไร บางเรื่องเราสามารถค้นพบได้ก็จริงและถึงแม้ว่าจะหาคำมาอธิบายได้ แต่มันก็คงยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากอยู่ดี โลกของเรานั้นจะว่ามีสิ่งที่ซับซ้อนมากมายซ้อนอยู่นี้ก็เป็นเรื่องจริงแต่มันยังมีที่ที่ซับซ้อนอยู่อีกหลายที่ โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนกันแน่
คุณว่าโลกของเรานั้นมีความซับซ้อนอยู่มากมาย นั้นก็เป็นที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ แต่ที่ที่ซับซ้อนกว่าโลกของเรานั้นก็คือจักรวารที่แสนจะกว้างใหญ่นั้นเอง สำหรับจักรวารมีความลับที่ซ้อนเอาไว้มากมาย และมันยังซ้อนเรื่องราวของระบบสุริยะเอาไว้อีกด้วย ระบบสุริยะเป็นระบบที่ประกอบไปด้วยดวงดาวต่างๆ มากมายนั้นก็รวมถึงโลกของเราด้วย โลกของเรามีดวงจันทร์ที่เป็นบริวารเพียง 1 ดวงเท่านั้น
และแน่นอนว่าโลกไม่ได้เป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีดวงจันทร์บริวาร เอนเซลาดัส เป็นดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ที่ผิวดาว ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่สดใหม่และสะอาด จนทำให้มันสะท้อนแสงกลับไปเกือบหมดเป็นผลให้ที่พื้นผิวของมันมีอุณหภูมิต่ำมาก อยู่ทีลบ 198 องศาเซลเซียส
ในตอนเที่ยงที่บริเวณขั้วใต้ของมันมีภูเขาไฟน้ำแข็งกว่า 100 ลูก ที่พ้นไอน้ำและสารอื่นประกอบคล้ายกับดาวหางขึ้นสู่อวกาศ สำหรับไอน้ำบางส่วนนั้นตกกลับลงมากลายเป็นหิมะที่เหลือกระจาบสู่อวกาศกลายเป็นส่วนประกอบวงแหวน ของดาวเสาร์ ที่ใต้เปลือกน้ำแข็งเป็นมหาสมุทรน้ำเค็ม เอนเซลาดัส นั้น
เป็นสถานที่นอกโลกที่เอื้อต่อการดำรงคงอยู่ของสิ่งมีชีวิตมากที่สุดในระบบสุริยะของเรา ไม่ว่าอย่างไรก็ต่างสำหรับเรื่องดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ไม่ได้มีเพียงดวงเดียวเหมือนกับโลกของเรา แต่มันยังมีอีกหลายดวงที่เรายังไม่ได้พูดถึง และแต่ละดวงก็ยังคงมีเอกลักษณ์เป็นของมันเอง
อย่างไรก็ตามในเรื่องของ เรื่องราวที่เป็นความลับของจักรวาร แม้แต่ความลับที่ระบบสุริยะที่เราคิดว่ารู้จักดีแล้ว แต่นั้นก็ยังไม่ดีพอที่จะสามารถค้นหาทุกสิ่งทุกอย่างเจอได้ หลายครั้งที่เรานั้นสามารถค้นพบสิ่งต่างๆ มากมายในอวกาศและสามมารถนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะได้ แต่บางเรื่องหรือบางอย่างเราก็ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์โลกด้วยกันเอง สุดท้ายนี้เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นที่จะรู้เกิดกว่าที่เขายากให้เรารู้ก็ได้
สนับสนุนโดย gclub casino online มือถือ
24
ก.ย.
2020
คุณคิดว่าคุณรู้จักโลกใบนี้มากน้อยแค่ไหน แน่นอนว่าทุกคนในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้ไปเสียทุกอย่างหรอก เพราะมันต้องมีบางอย่างที่คุณไม่ได้สนใจและให้ความสำคัญเท่าที่ควร แต่นั้นก็ไม่แปลก เพราะอย่างที่บอกไปว่าไม่มีใครที่จะสนใจไปเสียทุกเรื่อง บางทีขนาดเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ ยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นก็คงจะไม่แปลกที่มีไม่กี่คนจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องของจักรวาร เพราะหลายคนมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัวเอามากๆ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจเท่าไหรนัก แต่เปล่าเลยเรื่องของจักรวารหรือเรื่องของวัตถุนอกโลกนั้นเราควรจะศึกษาไว้บ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ในจักรวารนั้นมีดวงดาวต่างๆ มากมายที่มีความลึกลับซับซ้อนเอามากๆ สำหรับในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับดาวที่มีความซับซ้อนที่สุดในนจักรวารดวงหนึ่งนั้นก็คือดาวที่มีชื่อว่า KIC8462852 ที่เรานั้นบอกว่าดาวดวงนี้มีความซับซ้อนนั้น ก็คือ เพราะแสงของมันมีความแปรปรวนเป็นอย่างมาก จนเรานั้นไม่สามารถที่จะคาดดารณ์ได้เลยว่า มันจะสว่างหรือว่ามืดขึ้นตอนไหน ดาวฤกษดวงนี้นั้นมีความใหญ่กว่าดวงอาทิตญืของเราเล็กน้อย
เพียง 0.5 เท่า เท่านั้น และมันก็ยังมีอุณหภูมิที่สูงกว่าดวงอาทิตย์ของเรา 1,000 องศาเซลเซียส เนื่องจากว่าตัวของมันมีการกระพริบแสงที่ไม่เหมือนกับดาวฤกษ์ดวงอื่นๆ และเพราะเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมักจะคิดว่า มันอาจจะเกิดจากวัตถุบดบัง หรือไม่ก็อาจจะมีมนุษย์ต่างดาวโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงนี้ก็เป็นไปได้ ในขณะที่นักวิทยาศาตร์บางคนเชื่อว่าอาจจะเกิดจากฝุ่นละอองปิดกั้นแสง จึงทำให้แสงของมันเปลี่ยนไปก็เป็นไปได้ และนอกจากนี้พวกเข้ายังค้นพบอีกว่า แสงสีน้ำเงินเป็นแสงที่มีการปิดกั้นความยาวคลื่นสั้นมากที่สุด
แต่นักดาราศาสตร์เชื่อกันว่ามันไม่ได้เกิดจากฝุ่นแต่อย่างไร แต่จะเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่า แต่มันจะเป็นอะไรนั้นก็คงจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรานั้นได้มีการทำเบื้องต้นนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องนาวที่เกิดขึ้นในจักรวารที่กว้างใหญ่แห่งนี้เพียงเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงส่วนที่เล็กมากๆ ของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว
สิ่งที่ค้นพบนี้จะไม่จำเป็นถ้าหากว่าไม่มีใครสนใจ ที่จะศึกษาเกี่ยวกับมัน และเมื่อมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแบบนี้เราก็ควรจะศึกษาไว้เพื่อเป็นความรู้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ขอบคุณ gclub ที่ให้การสนับสนุน
16
ก.ย.
2020
เมื่อเราตองการที่จะเช็ดกระจกหรือว่าจะทำความสะอาดกระจก แต่ว่าด้วยการที่เช็ดกระจกด้วยผ้าเพียงอย่างก็ไม่สะอาดไม่ใสเหมือนกับกระจกที่เราเช็ดทำความสะอาด จะให้เราไปซื้อน้ำยาข้างนอกบางทีเราก็เกิดอาการแพ้น้ำยาเพราะว่าจะทำให้เรารู้ซึกว่าแสบมือ ทำให้มือของเราเกิดอาการลอกหรือไม่ก็มีอาการคัน ดังนี้เราก็เลยที่จะทำน้ำยาเช็ดกระจกเองโดยการที่เราเอาของใช้ที่อยู่ภายในบ้านมาทำ และก็ไม่มีสารเคมีที่ต้องทำผิวมือของเราเกิดอาการในระหว่างที่เราทำความสะอาดนั่นเอง เราไปดูกันว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้าง และวิธีในการทำเป็นอย่างไร
อุปกรณ์ในการทำน้ำยาเช็ดกระจก
- หม้อสำหรับเอาไว้ต้ม 1 ใบ อัญชัน
ขั้นตอนในการทำ
- เริ่มแรกเอาหม้อตั้งไฟ และเอาน้ำเปล่าเทใส่หม้อ และตั้งไฟทิ้งไว้
- เมื่อตั้งไฟและน้ำเริ่มที่เดือด จากนั้นเราเอาดอกอัญชันที่เราเตรียมมาเทใส่ลงไปในหม้อจากนั้นเราก็รอประมาณ 15-20 นาที
- เมื่อเราตั้งดอกอัญชันเสร็จแล้ว ให้เราเอามะกรูดที่เราหันเตรียมไว้เทใส่ในหม้อเดียวกัน จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ2-3 นาที
- เมื่อเราทำขั้นตอนที่สามเสร็จแล้วให้เราเอาน้ำตาลทรายเทใส่ลงไป ในหม้อและก็คนให้ละลาย
- เมื่อเราเสร็จแล้วให้เราเอาขวดที่เราเตรียมไว้นั้นเทใส่ลงไป แต่ว่าในขณะที่เราจะเทให้เราเอากากของดอกอัญชันและมะกรูดที่เราต้มไว้นั้นเอาออกด้วย จากนั้นเราก็ปิดฝา ทิ้งเอาไว้สักหนึ่งวันให้เกิดแก๊สจากนั้นเราก็นำเอาไปใช้ได้
เพียงแค่นี้เราก็จะได้น้ำยาเช็ดกระจกที่เราต้องการเอาไว้เช็ดกระจก แถมยังได้น้ำยาเช็ดที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนและไม่ทำให้ผิวมือของเราเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนเมื่อเราทำความสะอาด ในขณะที่เราทำนั้นเราได้ใช้วัตถุที่อยู่ภายในบ้านและก็ไม่มีสารเคมีที่จะทำร้ายผิวและเราก็ประหยัดเงินในกระเปาของเราอีกด้วยที่ไม่ต้องไปซื้อน้ำยาในราคาที่แพง และเราทำน้ำยาที่เราสามารถทำเองได้และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราหาเองและอยู่ในบ้าน
ซึ่งถ้าเราเหลือใช้นั้นเราก็สามารถที่จะเอามาทำขายเพื่อที่จะเป็นกำไรให้กับเราและถ้ามีคนนั้นใช้เยอะเราก็สามารถที่จะเปิดเป็นธุรกิจในการขายได้อีก แหมๆ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ แต่ที่รู้ว่ามีแต่ได้กับได้
สนับสนุนเรื่องราวโดย เวปยูฟ่าเบท